เที่ยวปากแม่กลอง กับคนคลองที่ ‘คลองโคน’
“ความเร็วเป็นสิ่งสัมพัทธ์” เราจะเห็นวัตถุไหนดูช้าหรือดูเร็ว ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ความเร็วของสิ่งนั้นเท่านั้น แต่ยังขึ้นกับความเร็วของเราด้วย การใช้ชีวิตของคนแต่ละพื้นที่คงไม่ต่างกัน จังหวะที่เร่งเร้าของสังคมเมืองอาจจะทำให้เราเคยชิน และนำจังหวะแบบนั้นมาใช้ในทุกกิจกรรมในชีวิต ไม่เว้นการท่องเที่ยว ที่นับวันจะยิ่งง่าย ยิ่งรวดเร็ว ยิ่งฉาบฉวย จนบางครั้งอาจทำให้หลายคนพลาดประสบการณ์บางอย่างไป โดยเฉพาะสถานที่ท้องถิ่นที่มีเสน่ห์ซ่อนอยู่ภายใต้ความเรียบง่ายธรรมดา ที่เราต้องปรับจังหวะเพื่อทำความรู้จัก แล้วใช้เวลาลงลึกเข้าไปสัมผัสด้วยตัวเอง สถานที่เหล่านี้ แท้จริงแล้วไปเที่ยวได้ง่ายและหลายแห่งอยู่ใกล้กรุงเทพฯ เพียงหลักชั่วโมงเท่านั้นเอง
จังหวัดสมุทรสงครามเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยว มีความคึกคักและเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาของผู้คนมากมาย ในขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งของจ.สมุทรสงครามเป็นพื้นที่ที่มีจังหวะการใช้ชีวิตในรูปแบบที่แตกต่างอย่างน่าสนใจ เป็นจังหวะของชีวิตวิถีชุมชนที่มีบริบทที่เข้ากันอย่างกลมกลืน
ตำบล คลองโคน เป็นพื้นที่ป่าชายเลนตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำแม่กลอง ห่างจากตลาดน้ำอัมพวาเพียงแค่ครึ่งชั่วโมง ด้วยความอุดมสมบูรณ์ ของธรรมชาติทำให้วิถีชาวบ้านบริเวณนี้ฝังรากลึกกับการทำประมง ไม่ว่าจะเป็นการจับปลา จับเคยเพื่อทำกะปิ รวมไปถึงการเก็บกุ้งเก็บหอย ซึ่งในปัจจุบันก็มีการปรับเปลี่ยนมาเป็นการเลี้ยงลักษณะฟาร์ม ไม่ต้องห่วงเลยว่าการมาที่คลองโคนจะอดอยาก เพราะจากการที่ได้มาสัมผัสที่นี่ด้วยตัวเอง เห็นได้เลยว่าอาหารการกินที่นี่โดยเฉพาะอาหารทะเลมีความอุดมสมบูรณ์เพียงพอที่จะให้ทุกคนอิ่มอร่อยอย่างมีความสุข
แม้ปัจจุบันวิถีชีวิตของชาวคลองโคนจะกลมกลืนพึ่งพาอาศัยธรรมชาติอย่างยั่งยืน ในอดีตคลองโคนเคยเป็นพื้นที่ที่ไร้ ชีวิต เพราะพื้นที่ป่าชายเลนถูกใช้ทำการเลี้ยงกุ้งแบบอุตสาหกรรม ทำให้พื้นที่ป่าชายเลนหายไปเป็นจำนวนมาก อีกทั้งการปล่อยน้ำเสียลงทะเลทำให้ความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติหายไป เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม ชาวบ้านในพื้นที่ที่มีอาชีพประมงในพื้นที่ก็ไม่สามารถทำมาหากินได้ เกิดการย้ายถิ่นไปใช้แรงงานนอกพื้นที่ ทิ้งคลองโคนไว้เป็นแหล่งเสื่อมโทรม ความเชื่อมโยงของชีวิตผู้คนกับพื้นที่จึงหายไป
จนถึงวันที่ชาวบ้านได้ร่วมมือร่วมใจกันฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับมามีชีวิต กลุ่มชาวบ้านได้ร่วมกันศึกษาหาทางออกในการฟื้นฟูอย่างยั่งยืน ทางออกที่ตกผลึกมาจากความคิดของคนในพื้นที่คือการ “ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์” เริ่มต้นด้วยความร่วมมือของกลุ่มชาวบ้าน เช่น ใครมีเรือก็ช่วยกันขนส่งนักท่องเที่ยว ใครมีห้องพักว่างก็ทำโฮมเสตย์รองรับนักท่องเที่ยว ใครมีความเชี่ยวชาญด้านการเพาะเลี้ยงพืชพันธุ์ป่าชายเลนก็ทำการเพาะกล้าพันธุ์เพื่อให้นักท่องเที่ยวนำไปปลูก ใครมีฝีมือในการทำอาหารก็รวมกลุ่มกันเพื่อให้บริการด้านอาหารเครื่องดื่ม เมื่อทุกคนต่างมีหน้าที่รับผิดชอบชัดเจน มีความรู้สึกเป็นเจ้าของงานและมีความเป็นเจ้าของพื้นที่ความใส่ใจและความตั้งใจเหล่านี้ได้ถูกส่งต่อไปยังทุกคนที่มาเยี่ยมเยียน
ด้วยความตั้งใจดีเหล่านี้ ทำให้กลุ่มนักท่องเที่ยวที่สนใจการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่สนใจเดินทางมายังคลองโคนมากขึ้น ชาวบ้านก็เข้ามารวมกลุ่มมากขึ้น ทำให้กลุ่มที่จำใจย้ายออกไปทำงานนอกพื้นที่ได้มีโอกาสกลับมายังบ้านเกิดตัวเอง มาใช้ชีวิตในจังหวะเดิมที่เคยได้ใช้อีกครั้ง และเมื่อป่าชายเลนเริ่มฟื้นตัวจากการร่วมมือของทั้งชาวบ้านและนักท่องเที่ยวในการปลูกป่า ความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติก็เริ่มกลับมาพร้อมกับวิถีชีวิตแบบเดิม
กิจกรรมที่น่าสนใจในคลองโคนนอกจากการมาร่วมมือกันปลูกป่าชายเลนแล้ว ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่ได้ทั้งความสนุก ได้ความรู้ และก็ยังได้ซึมซับวิถีชีวิตของชาวคลองโคน โดยเริ่มจากการฟังเรื่องเล่าความเป็นมาของศูนย์อนุรักษ์ป่าชายเลนคลองโคนผู้ใหญ่ชงค์ ผู้ซึ่งเป็นคนจุดประกายการฟื้นฟูพื้นที่แห่งนี้จากผลกระทบต่างๆ โดยเล่าผ่านพี่เชษฐ์ลูกชายผู้ใหญ่ชงค์เอง ซึ่งมาเล่าประสบการณ์ตรงทำให้เราเข้าใจถึงความรู้สึกในช่วงเวลาต่างๆ จากนั้นเราก็จะได้ล่องเรือออกไปดูป่าชายเลนที่เกิดจากแรงร่วมใจของประชาชน ที่ซึ่งสมเด็จพระเทพฯเคยเสด็จพระราชดำเนินมาทรงปลูกด้วยพระองค์เอง
ในพื้นที่ป่าชายเลนผืนนี้มีสิ่งมีชีวิตมาอาศัยอยู่จำนวนมากไม่ว่าจะเป็นสัตว์น้ำ นกชนิดต่างๆ รวมไปถึงลิงแสม ที่เราสามารถไปให้อาหารได้ โดยที่ชาวบ้านพยายามแบ่งพื้นที่การอยู่ของลิงให้ห่างจากบริเวณที่อยู่อาศัยของชาวบ้านเพื่อให้ไม่เกิดปัญหาจากการอยู่ร่วมกัน ระหว่างทางที่นั่งเรือไปพี่ๆน้าๆที่ขับเรือก็มักจะมีเรื่องราวต่างๆที่น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟังไม่ว่าจะเป็นเรื่องของธรรมชาติรอบตัว กิจกรรมที่น่าสนใจ และวิถีชีวิต
อีกไฮไลท์นึงคงจะเป็นการลองเล่นสกีที่ต้องใช้ความสามารถทางร่างกายและจิตใจเพื่อแลกกับความสนุกท้าทายตามประสากีฬาเอ็กซ์ตรีม แต่ถ้าใครไม่พร้อมก็สามารถรอช่วงน้ำลงแล้วมาลองไถกระดานเก็บหอยก็เพลินไปได้อีกแบบ
ในพื้นที่นี้ยังมีการทำประมงเลี้ยงหอยอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งชาวบ้านก็จะทำการปลูกกะเตงไว้กลางทะเลเพื่อไว้เฝ้าแปลงหอยกันขโมย แต่ปัจจุบันกะเตงเหล่านี้ก็ยังสามารถเป็นจุดพักของนักท่องเที่ยวเพื่อมารับประทานอาหารหลักจากออกแรงปลูกป่าชายเลนและความสดใหม่ของอาหารก็รับรองว่าไม่น้อยหน้าที่ไหนแน่นอน โดยเฉพาะหอยแครงที่เป็นผลผลิตหลักของพื้นที่คลองโคน
ทั้งหมดนี้เป็นกิจกรรมที่สอดคล้องกันอย่างลงตัว เพราะมันคือวิถีชีวิตจริงๆ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปสัมผัสได้จากคนคลองโคน เรียนรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างถ่องแท้จากชาวบ้าน แล้วยังได้สนับสนุนวิถีชุมชนแท้ๆ ให้อยู่ได้อย่างยั่งยืน
บรรยากาศตอนกลางคืนของจังหวัดสมุทรสงครามก็มีสิ่งที่ขาดไม่ได้อีกอย่างคือการล่องเรือดูหิ่งห้อยในแม่น้ำแม่กลอง หรือจะหาที่จิบรับลมดื่มด่ำบรรยากาศ ปรับจังหวะของเข็มนาฬิกาให้ชีวิตช้าลงสักนิดเพื่อมีเวลาหันมามองข้างทางเก็บเรื่องราวรายละเอียดต่างๆ เป็นความทรงจำที่มีเรื่องราวที่ลึกซึ้ง มีความเป็นเอกลักษณ์ น่าจดจำ เป็นเรื่องราวชีวิตแท้ๆ ของกลุ่มคนที่มีความรักในบ้านเกิดของตนเอง และพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคนเข้ามาสัมผัสประสบการณ์ท้องถิ่น ซึมซับวิถีชุมชน แล้วรักคลองโคนไปด้วยกัน
Story by Wiraya Chinpitak | Photography by Sharp Jaruwat P