กลางวันครึกครื้น กลางคืนคึกคัก ตามแบบฉบับย่าน ‘รัชดา–ห้วยขวาง’

ถ้าพูดถึงถนน รัชดาภิเษก ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่น่าจะนึกถึงตึกออฟฟิศจำนวนมากที่เรียงรายกันอยู่สองข้างทางของเส้นนี้ แต่หากค้นเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทย จะเจอเรื่องราวของถนนเส้นนี้ที่เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ด้วย เพราะที่มาของถนนรัชดาภิเษก มาจากกระแสพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่มีพระราชประสงค์ให้ตัดถนนเพิ่มเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรและพระราชทานเป็นของขวัญให้คนไทย ในปี พ.ศ.2514 เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีรัชดาภิเษก ซึ่งเป็นที่มาของชื่อถนนนั่นเอง

การตัดถนนในครั้งนั้นทำให้เกิดย่านธุรกิจใหม่ตามมา ตึกแถวและอาคารสำนักงานค่อยๆ หนาตาขึ้น ตามด้วยความบันเทิงในยามค่ำคืนที่กลายเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คนนึกถึงเมื่อพูดถึงย่านนี้ ทั้งที่ถ้าได้สำรวจย่านนี้จริงๆ จะเจอสิ่งที่น่าสนใจมากกว่าความเป็นแหล่งรวมตัวของชาวออฟฟิศ เพราะย่าน รัชดา-ห้วยขวาง ที่รวมถึงละแวกเหม่งจ๋ายมีอะไรสนุกๆ ให้ทำทั้งกลางวันและกลางคืน จะต่างก็ตรงคาแรกเตอร์ของแต่ละช่วงเวลาในแบบที่เราอยากจำกัดความว่าเป็น eco day กับ energetic night

สนุกแบบพอดีๆ ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน

รัชดา-ห้วยขวาง

ใครว่าร้านที่อยู่ในดงออฟฟิศจะต้องเป็นอาหารจานด่วน เน้นสะดวก เน้นเร็วเสมอไป…ต่อให้อยู่ในย่านแบบนี้ก็ยังมีที่ ที่ช่วยเติมความสุขในแบบ eco ได้ กับ Greenmade Café ร้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนชั้น 2 โซนพลาซ่าของตึก AIA Capital Center ด้วยความตั้งใจของเจ้าของที่จบด้านธรรมชาติบำบัดจึงเปิดเป็นคาเฟ่อาหารเพื่อสุขภาพ ที่ใช้วัตถุดิบสด สะอาด ปราศจากสารเคมีมาทำอาหารและเครื่องดื่ม ทั้งยังรสชาติดีสวนทางกับความคิดที่ว่าอาหารเฮลตี้มักจะไม่อร่อย

จาก Greenmade Café ข้ามถนนมายังอีกฟากของถนน แล้วเดินต่อไปยังศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งเชื่อว่าหลายคนต้องเคยมาชมคอนเสิร์ตหรือการแสดงที่นี่กันอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เราเองก็เพิ่งค้นพบเมื่อไม่นานมานี้คือที่นี่มีห้องสมุดวัฒนธรรมที่รวบรวมหนังสือและสิ่งพิมพ์เกี่ยวกับเรื่องราวศิลปวัฒนธรรมของไทยเอาไว้ให้คนไทยได้เรียนรู้ เป็นอีกแง่มุมหนึ่งของย่านรัชดาที่น่าทำความรู้จักให้มากขึ้น

เช่นเดียวกับแง่มุมในเรื่องที่คนชอบออกกำลังกายไม่ควรมองข้าม เพราะท่ามกลางวงล้อมของตึกสูงที่ดูเหมือนจะหาสวนสาธารณะได้ยากกว่าย่านชานเมือง หลังตึกเมืองไทย-ภัทร คอมเพล็กซ์ ที่อยู่เลยสถานี MRT สุทธิสาร แค่ระยะเดินไม่กี่นาทีถึง เป็นที่ตั้งของสวนสาธารณะขนาดเล็กที่หลายคนเรียกติดปากว่า “สวนเต่า” ถึงพื้นที่จะค่อนข้างกะทัดรัดเมื่อเทียบกับสวนสาธารณะใหญ่ๆ แต่ก็มีทั้งสนามบาสเก็ตบอลและสนามหญ้าที่เอื้อต่อการวิ่งออกกำลังกาย เปิดให้ใช้ได้ตั้งแต่ 7 โมงเช้า พูดถึงเรื่องออกกำลังกายแล้ว ย่านนี้ยังมีอีกเส้นทางที่เหมาะกับนักปั่นจักรยาน เพียงแค่เลี้ยวเข้ามาแยกเทียมร่วมมิตรไปตามเส้นทางที่จะไปแยกเหม่งจ๋ายก็เจอถนนที่ทอดยาวเลียบไปกับวิวทุ่งหญ้าข้างทาง ให้นักปั่นได้ขี่กันแบบปลอดภัย แถมยังได้เจอกับอากาศชิลล์ๆ ให้หายใจกันอย่างเต็มปอดทั้งที่อยู่ในย่านกลางเมืองด้วย

นอกจากที่กล่าวมานี้แล้ว บนถนนรัชดายังมีร้านกาแฟเล็กๆ อย่าง Chillen Café ซึ่งตั้งอยู่ชั้นล่างของอาคารเลอคองคอร์ด เรายกให้ร้านนี้เป็นเซฟเฮาส์ในการนั่งทำงานช่วงบ่าย เพราะบรรยากาศที่ไม่พลุกพล่าน ไม่วุ่นวายของที่ร้าน ทำให้หลายครั้งไอเดียดีๆ ในการทำงานมาจากเวลานั่งในร้านนี้นี่ล่ะ

สนุกตลอดคืนหลังพระอาทิตย์ตกดิน

ย่านรัชดา-ห้วยขวางมีทางเลือกในการเริ่มต้นความสนุกยามค่ำคืนหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน แต่จะเป็นแนวไหนก็ล้วนแต่มีพลังในแบบของตัวเอง ย่านนี้คงเป็นเพียงไม่กี่แห่งในกรุงเทพฯ ที่จะมีฟิตเนสเปิดตลอด 24 ชั่วโมง และมีทางเลือกในการเล่นกีฬาที่เปิดจนถึงดึก อย่างสนามไดรฟ์กอล์ฟออลสตาร์ในซอยสถานทูตลาวที่เป็นที่รู้จักของนักกอล์ฟมืออาชีพและมือสมัครเล่นมานาน หรือหน้าใหม่ในวงการออกกำลังอย่าง Bounce ที่ The Street ที่สามารถแวะเวียนไปเล่นลานแทรมโปลีนที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ได้ถึง 4 ทุ่ม

ออกกำลังกายกันแล้วจะต่อด้วยของอร่อยก็คงไม่รู้สึกผิดเท่าไรนัก ยิ่งอยู่ในย่านที่มีร้านเปิด 24 ชั่วโมงแบบนี้ จะรีบกลับบ้านแต่หัววันก็คงจะน่าเสียดาย เพราะรัชดามีร้านชาบูเปิด 24 ชั่วโมงที่ให้ลวกเนื้อ ซดซุปกันได้ตลอดทั้งคืน ยังไม่นับร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านบิงซูที่คนแวะมากินกันอย่างคึกคักทั้งคืน ซึ่งถ้าใครกินบิงซูแล้วยังไม่หนำใจ อยากได้ความเกาในรูปแบบอื่นๆ อีก ใกล้กับ MRT ศูนย์วัฒนธรรมฯ จะมีซูเปอร์มาร์เก็ตรวบรวมสารพันไอเทมเกาหลีชื่อ K-Market ที่ถึงจะไม่ได้เปิดทั้งคืน แต่ก็เปิดดึกถึง 5 ทุ่ม

ความครึกครื้นหลังพระอาทิตย์ตกดินของรัชดายังเป็นอีกสีสันหนึ่งที่สัมผัสได้จากตลาดรถไฟบริเวณหลังเอสพลานาด เพราะที่นี่มีครบทั้งร้านนั่งจิบแบบชิลล์ๆ และร้านขายของทั้งมือหนึ่งและมือสองที่นักสะสม รวมถึงคอวินเทจไม่ควรพลาด หรือถ้าชอบบรรยากาศแบบอินเตอร์หน่อย ร้านนั่งดื่มแบบ Sorry, I’m Gay ที่โดดเด่นด้วยเพลงเทคโนที่ไม่เหมือนใคร หรือ Speaker Box ที่เด่นเรื่องไลฟ์แบนด์ ให้สนุกกันได้ยาวๆ ถึงตีสอง

จากถนนที่เกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาทางจราจร ตามมาด้วยการเกิดขึ้นของย่านสำนักงาน หรือเป็นสถานที่ที่คนคิดว่าต้องไปแต่เฉพาะกลางคืนเท่านั้น รัชดา-ห้วยขวาง ในทุกวันนี้กลายเป็นย่านที่เราสามารถใช้ชีวิตให้ช้าลงได้ในตอนกลางวันและยังสามารถใส่สปีดได้ในตอนกลางคืน จนถือเป็นอีกย่านที่เติมเสน่ห์ให้กรุงเทพฯ เป็นมหานครแห่งชีวิตชีวาแบบ 24 ชั่วโมงอย่างแท้จริง

และนอกจากความครึกครื้นและความคึกคักที่เราว่ามาทั้งหมดแล้ว ในช่วงต้นปีหน้าจะมีพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้นอีกแห่งในย่าน รัชดา-ห้วยขวาง โดยพื้นที่สีเขียวนี้จะอยู่ภายในบริเวณโครงการคอนโดมิเนียม Chapter One Eco ซึ่งอยู่ระหว่าง MRT ห้วยขวางและ MRT ศูนย์วัฒนธรรม คอนโดมิเนียมราคาเริ่มต้นที่ 2.3 ล้านบาท และผ่อนดาวน์เริ่มต้นเดือนละ 3,900 บาท ที่จะมีทั้งฟาร์มกลางกรุงและ bike park เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของไลฟ์สไตล์สาย eco รวมถึงไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่มองว่าที่พักที่ลงตัวกับความสุขในชีวิตและเดินทางได้สะดวก

Chapter One Eco มีงานในวันที่ 5-6 สิงหาคม นี้ พร้อมเข้าชมห้องตัวอย่างได้แล้วทุกวัน คลิก ที่นี่ เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ