สะบายจัง หลวงพระบาง
‘หลวงพระบาง’ ฤดูฝนมีทั้งความเขียว ความชุ่มฉ่ำ และอากาศบริสุทธิ์สดชื่น การเปลี่ยนฤดูเดินทางทำให้เราได้พบเจอกับเมืองที่แตกต่างไปจากเดิม ที่สำคัญช่วงนี้หลวงพระบางมีความสงบเงียบมาก จนสบายใจและสบายจัง เหมาะกับการมาทำตัวว่างๆ เดินเล่น กินขนม นอนอ่านหนังสือ เขียนโปสการด์ ปั่นจักรยาน นั่งมองฝน จิบเบยลาว หลับแล้วตื่นแล้วหาอะไร กินวนๆกันไป หรือจะเพลินต่อเที่ยวลาวเหนืออีกซักหน่อยก็ดี
การเดินทางในปัจจุบันก็ยิ่งสบายเพราะมีเครื่องบินของแอร์เอเชียบินชั่วโมงกว่าๆ ก็จะเห็นภูเขาสลับซับซ้อนให้เตรียมแลนดิ้งลงมาสูดอากาศได้เลย ถึงค่าครองชีพจะแพงซักหน่อย ก๋วยเตี๋ยวธรรมดานั้นราคาหมื่นห้าพันกีบเข้าไปแล้ว (ราวๆ 60 บาท ) แต่ที่พักกลับมีราคาเบาๆ แถมมีวิวแม่น้ำสวยๆ จะเลือกนอนแถวริมน้ำโขงหรือพักใกล้น้ำคานแสนสงบก็ได้สุดแต่ใจจะไขว่คว้า ช่วงนี้ไม่ต้องแย่งชิงกับใครราคาที่พักจะถูกมาก ต่อได้ก็ต่อกันไป มาคราวนี้ที่แปลกใจคือเจอคนเกาหลีเยอะมาก จนที่พักแถวซอยร้านโจมา นี่มีภาษาเกาหลีเขียนติดไว้เลย แต่นักท่องเที่ยวจีนไม่เยอะเท่าไหร่ แทบจะไม่เจอ หากลงเครื่องแล้วถ้ายังไม่ได้แลกเงินเป็นเงินกีบที่สนามบินก็ไปแลกในธนาคารที่ตัวเมืองได้ ใช้เงินกีบจะประหยัดกว่าใช้เงินไทยถึงแม้เค้าจะรับก็ตาม (ที่ซุปเปอร์ริชยังไม่มีเงินลาวให้แลก) และนี่คือสถานที่และกิจกรรมใหม่ๆ ที่เราขอแนะนำให้ลองทำที่หลวงพระบาง
1. ชิมขนมอร่อยที่ Le Banneton Cafe French bakery
เดินออกมาไกลซักหน่อยแถบแนววัดเชียงทองจะเจอ ร้านเล็กๆ เป็นคาเฟ่ขายขนมสไตล์ฝรั่งเศสตระกูลพายและมีครัวซองต์แบบต่างๆ เป็นของขึ้นชื่อยอดนิยมแต่ทว่าสิ่งที่เราชอบมากคือขนมปังบาแก็ทเหนียวนุ่มที่เสริฟพร้อมแยมเบอรี่รสเลิศมาในเซ็ทอาหารเช้า นั่งกินอาหารเช้าชมวิวเมืองเก่าในย่านที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เสร็จแล้วเดินไปไหว้พระต่อก็จะยิ่งสบายใจ
2. ชมวิวแม่น้ำคานที่ Utopia หลวงพระบาง
เอนมองวิวแม่น้ำคานแบบเอกเขนกบนฟูกนอนและหมอนสามเหลี่ยมสุดชิล ที่นี่เสริฟทั้งอาหารเช้าสำหรับคนรักสุขภาพ หรือจะมารีแล็กซ์ยามไหนก็ได้ไม่ว่ากันเพราะร้านปิดดึกแถมบางวันมีคลาสโยคะอีกด้วย อาหารที่เสริฟเน้นไปทางเฮลท์ตี้ แต่เบอร์เกอร์และเฟรนช์ฟรายก็ดูน่ากินมากเช่นกัน ร้านเป็นโอเพ่นแอร์ อยู่ด้านหลังของภูเขาวัดพูสี เดินอ้อมมาด้านหลังเขามาเรื่อยๆ ก็จะเจอแยกๆ นึงหน้าซอยจะมีป้ายติดไว้เลยเดินเข้าซอยไปลึกลับซับซ้อนแต่มีป้ายบอกตลอดทางไม่หลงแน่นอน วิวที่ได้เอาไปสิบดาว
3.หลวงพระบางเมืองน้ำปั่นโลก
ด้วยแผงร้านน้ำปั่นที่มากมาย และอากาศร้อนอบอ้าวช่วงก่อนฝนตกเราขอเชิญชวนให้ทุกท่านลองคิดค้นน้ำปั่นสูตรใหม่ไสยไสย สไตล์เรากันวันละปั่นเพื่อความสนุกสนานปั่นนึงก็ประมาณหมื่นกีบ แม้รสชาติเหมือนน้ำปั่นบ้านเรา แต่สนุกกว่าตรงมีผลไม้ให้เลือกปั่นเยอะมาก เสาวรส กีวี มะม่วง มะขาม แก้วมังกร โอริโอ เนยถั่ว ช็อคโกแลต อะโวคาโด สัปปะรด มะเขือเทศ มีอีกนะเล่าไม่หมด ใครที่คิดเองไม่ออกเค้าก็มีเมนูให้เลือกเต็มหน้ากระดาษA4เลยจ้ะเลือกให้สนุกกันไปเลย
4. Night market และ บุฟเฟต์มังสวิรัติ
ตักเท่าไหร่ก็ได้15000กีบเปลี่ยนบรรยากาศจากรสส้มตำ ไก่ย่างมาสนุกกับชาวโลกที่ร้านบุฟเฟต์มังสวิรัติยอดฮิทในซอยขายของกินถนนคนเดิน เนื่องจากนักเดินทางชาวต่างชาติชอบกินมังสวิรัต กันมากอย่างไรไม่ทราบได้หรืออาจจะเป็นหนึ่งในกิจกรรมของการเดินทางที่ต้องตามหาจิตวิญญาณไปพร้อมๆ กับแป้งและผัก จึงทำให้ร้านนี้พอเข้าสองทุ่มคนก็จะเยอะมาก วิธีการร่วมสนุกคือเข้าไปหยิบชามมาแล้วก็เขยิบไปตักอาหารได้ตามใจชอบซึ่งก็จะมีผัดผักต่างๆ ข้าวผัด ผัดหมี่ ผัดซีอิ้ว ผัดเต้าหู้ แกงกะหรี่ผัก ยำผัก ส้มตำ ไข่ดาว กล้วยทอดก็มีงงไปอีก อย่าลืมใส่ผลไม้เข้าไปด้วยจะได้มีของหวานตบท้าย จากนั้นก็ไปเดินย่อยที่ถนนคนเดิน หาของฝากติดมือไปฝากเพื่อนๆ ที่ทำงาน อย่างเสื้อภาษาลาวน่ารักๆ อย่างไปไส ขอบใจเด้อ
5. Joma bekery ริมแม่น้ำคาน
โจมา เบอเกอรี่เป็นร้านขนมและกาแฟที่มีชื่อเสียงคู่กับหลวงพระบางมาเป็นเวลานาน สาขาแรกอยู่ไม่ไกลจากวงเวียนตรงถนนคนเดินตอนนี้มีเปิดเพิ่มอีกหนึ่งสาขาริมแม่น้ำคานเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความเงียบสงัดและสงบ ตอนนี้มีเมนูใหม่มิลค์เชคมาแข่งกับแผงน้ำปั่น ส่วนเมนูดั้งเดิมอย่างเค้กต่างๆ และอาหาร ก็มีให้บริการตั้งแต่แปดโมงเช้าใครนอนแถวริมน้ำคานก็ไปจิบกาแฟยามเช้าที่นี่ได้
6. เดินเล่นตลาดเช้า
เดินตลาดเช้าหน้าฝนจะเจอของป่าประหลาดๆ เยอะมากเพราะเป็นช่วงที่ป่ามีความอุดมสมบูรณ์ ที่โดดเด่นสะดุดตารองจากปลานักกล้ามตัวใหญ่บิ้ก คงจะเป็นหน่อไม้และเห็ดนานาพรรณ ตั้งแต่เห็ดเล็กจิ๋วไปจนถึงพ่อแม่เห็ดซึ่งนอกจากในตลาดจะมีของกินพื้นถิ่นที่น่าสนใจแล้วก็จะมีเมนูพิเศษใส่เห็ดถอบอีกด้วย อย่าพลาดล่ะ
7. เพลินกันต่อที่หนองเขียว และ เมืองงอย
ขึ้นรถตู้จากหลวงพระบางไปอีกสี่ชั่วโมงจะเจอเมืองหนองเขียว (เมืองงอยใหม่) ที่แสนสงบและมีห้องพักวิวดีติดแม่น้ำอู ซึ่งถ้าลงเรือชมวิวภูเขาและสายหมอกไปอีกหนึ่งชั่วโมงก็จะเจอเมืองงอยเก่าที่สงบยิ่งกว่า เมืองเล็กๆ กลางหุบเขาและสายน้ำมีถนนเส้นหลักขนาดเล็กจัดอยู่หนึ่งเส้น ตอนเช้าและเย็นชาวบ้านจะนำสินค้าโฮมเมด มาวางขายประปรายซึ่งอาจจะเป็นเพราะช่วงโลว์ ซีซั่น มีไส้กรอกย่างร้านนึงอร่อยมากควรเดินเลือกบังกะโลวิวดีๆ ซักหลังซึ่งส่วนมากจะมีเปลให้ไกวดูวิวภูเขาและแม่น้ำอูพร้อมสัญญาณไวไฟ ราคาตกประมาณสามร้อยบาท
ป.ล. ตอนกลางคืนดาวสวยมากไม่ควรมาคนเดียวถ้าสกิลสันโดษไม่สูงพอ
Story by รตี ช่วงแก้ว
นักเขียน นักเดินทาง ว่างๆก็อยู่บ้านเย็บปักถักร้อย