Best of “อโศก” ที่สุดแห่งศูนย์กลางมหานครกรุงเทพ

อโศก ถือเป็นย่านที่เป็นหัวใจหลักของกรุงเทพ ที่นี่คือศูนย์กลางการคมนาคมหลักจุดหนึ่งของเมืองหลวงเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะบริเวณแยกอโศก ซึ่งเป็นสี่แยกหลักใจกลางกรุง ศูนย์รวมของการคมนาคมอันทันสมัยสะดวกสบายหลากหลายรูปแบบ ที่ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเลือกพักอาศัย กินอยู่เที่ยวทำงานกันอยู่บริเวณนี้ เริ่มต้นด้วยการเป็นจุดบรรจบกันของถนนหลัก 3 สาย คือ ถนนอโศกมนตรี ถนนรัชดาภิเษก และ ถนนสุขุมวิท ทำให้ซอกซอยเส้นทางต่างๆ สามารถนำเราไปยังย่านสำคัญทั่วกรุงเทพได้อย่างสะดวก ตามมาด้วยการเป็นศูนย์เชื่อมการเดินทางของรถไฟฟ้าสองสายทั้ง BTS และ MRT ซึ่งนับวันจะยิ่งขยายโครงข่ายเส้นทางไกลออกไปทั่วทั้งมหานคร เป็นทางเลือกที่รวดเร็วสะดวกสบาย ช่วยให้เราบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย แถมการเดินทางเชื่อมต่อไปยัง Airport Link ก็ง่ายและใกล้เพียงนิดเดียว ทำให้การเดินทางสู่ต่างประเทศไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป

25590210-_RPS5704

25590209-_RPS5252

25590210-_RPS5758

25590212-_RPS5804

25590212-_RPS5916

ข้อได้เปรียบของทำเลโอศกอีกอย่างก็คือการมีตรอกซอกซอยที่หลากหลายให้เราสามารถเลือกเส้นทางลัดเลาะเพื่อเลี่ยงการจราจรในบางจุด หรือไม่ก็อาจเป็นวิธีที่ทำให้เราไปถึงยังจุดหมายได้เร็วขึ้น เช่นซอยสุขุมวิท 19 ทางฝั่งตะวันตกที่จะพาเราลัดเลาะไปออกนานาทางซอยไชยยศ (ตรงข้ามรพ.บํารุงราษฎร์) เพื่อต่อไปยังโซนอื่นๆ หรือขึ้นทางด่วนได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น ส่วนซอยต่างๆ ทางฝั่งตะวันออกก็จะพาเราซอกแซกไปตามซอกซอยในย่านสุขุมวิท ไปจนกระทั่งเชื่อมต่อสู่ถนนเพชรบุรี ทางด้านฝั่งทิศใต้ก็จะมีซอกซอยต่างๆ ที่เป็นทางเลือกเพื่อเดินทางไปถนนพระราม 4 ได้อย่างสะดวกสบายด้วย ส่วนทางตอนเหนือนั้นถนนอโศกมนตรีก็เป็นเส้นทางสู่ทางด่วนที่จะเชื่อมไปสู่จุดอื่นๆ ของเมืองหลวงตลอดจนเส้นทางออกนอกเมืองที่สะดวกสบาย ข้อดีและจุดได้เปรียบต่างๆ เหล่านี้ทำให้อโศกกลายเป็น Hub of Bangkok ศูนย์กลางของเมืองหลวงที่สำคัญอย่างแท้จริง

25590210-_RPS5686

25590209-_RPS5350

25590210-_RPS5780

ด้วยศักยภาพของทำเลที่ดีเยี่ยมนี้จึงทำให้อโศกกลายเป็นศูนย์รวมของหลากหลายสิ่ง นอกจากจะเป็นย่านธุรกิจสำคัญที่เต็มไปด้วยบริษัทชั้นนำต่างๆ มากมาย ย่านนี้ยังเต็มไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์มีระดับอีกหลากหลายเช่นกัน รวมไปถึงเป็นแหล่งที่ตั้งของโรงแรมหรูหราระดับสากลอีกหลายแห่ง แวดล้อมไปด้วยร้านอาหารชั้นเยี่ยม คาเฟ่บรรยากาศดีๆ ตลอดจนแหล่งผักผ่อนหย่อนใจหลากหลายประเภทที่ให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขตลอดทั้งวัน แล้วก็ไม่ใช่แค่ความทันสมัยเท่านั้น อโศกยังเป็นย่านเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากมายอีกด้วย ตลอดจนเป็นแหล่งการศึกษาชั้นนำของประเทศ

25590212-_RPS5957

25590209-_RPS5520

อโศกเป็นย่านเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน แต่หากพูดถึงความเป็นย่านอโศกจริงๆ น่าจะเริ่มต้นตั้งแต่ยุคที่มีการตัดถนนผ่านย่านนี้ซึ่งเดิมทีถนนสายหลักนี้มีชื่อเรียกตามปกติว่า “ซอยสุขุมวิท 21 (ซอยอโศก)” ต่อมาทางกรุงเทพมหานครได้เปลี่ยนชื่อถนนสายนี้เป็น “ถนนอโศกมนตรี” เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2547 ตามข้อเสนอของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่ พระอโศกมนตรี (เรียม เศวตเศรณี) ข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งท่านเป็นหนึ่งในผู้อุทิศที่ดินรายหลักเพื่อสร้างถนนสายนี้ขึ้นมานั่นเอง

ความสำคัญของย่านอโศกอีกอย่างก็คือการตั้งอยู่ในเขตวัฒนาที่เดิมนั้นคือส่วนหนึ่งของเขตคลองเตย ทางกรุงเทพมหานครได้มีการแบ่งเขตขึ้นใหม่ในปี พ.ศ.2541 โดยเปลี่ยนพื้นที่เดิมซึ่งถูกเรียกว่าเขตคลองเตย สาขา 1 ให้เป็นเขตวัฒนา โดยชื่อนี้นั้นยังได้รับพระราชทานมาจากสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์อีกด้วย

25590210-_RPS5707

25590209-_RPS5444

ประวัติศาสตร์สำคัญหนึ่งที่น่าสนใจของย่านนี้ก็คือ “โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย” ซึ่งเป็นสถานศึกษาเก่าแก่ที่เกิดขึ้นก่อนจะมีการตัดถนนเสียด้วยซ้ำ เดิมทีโรงเรียนแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณพระราชวังหลัง (ขณะนั้นเป็นส่วนหนึ่งของโรงพยาบาลศิริราช) ใช้ชื่อว่า “โรงเรียนกุลสตรีวังหลัง” ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2417 โดยมิชชันนารีคณะเพรสไปทีเรียมิชชันจากสหรัฐอเมริกา เพื่อสอนด้านการอ่านเขียน การศึกษาคริสตจริยธรรม วิชาเย็บปักถักร้อย และวิชาสำรับกลุสตรี ที่นี่ถือเป็นโรงเรียนอนุบาลตลอดจนโรงเรียนสตรีประจำแห่งแรกของประเทศไทยเลยทีเดียว ต่อมาในปี พ.ศ.2464 กิจการโรงเรียนขยายขึ้นมากจึงได้ย้ายโรงเรียนมาตั้งอยู่ ณ สถานที่ปัจจุบันที่ซอยสุขุมวิท 19 และเปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย” นับแต่นั้นมา ซึ่งโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัยนั้นอยู่ในสังกัดสำนักงานพันธกิจการศึกษา มูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทย ภายในโรงเรียนยังคงร่มรื่นย์ และเป็นหนึ่งในแหล่งการศึกษาสำคัญของเมืองไทย

25590209-_RPS5359

25590210-_RPS5695

Best of Asok

อโศกเป็นย่านที่มีสีสันและชีวิตชีวาตลอดเวลา ถือเป็นย่านที่เราจะใช้ชีวิตได้สนุกและมีความสุขมากที่สุดเลยทีเดียว โดยรอบย่านนี้เต็มไปด้วยไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ตั้งแต่แหล่งเรียนรู้ที่มีคุณค่า แหล่งพักผ่อนหย่อนใจคลายเครียด แหล่งอร่อยหลากหลายระดับ แหล่งช้อปปิ้งสุดเพลิน แหล่งฟิตแอนด์เฟิร์มหลายรูปแบบ ไปจนถึงแหล่งแฮงค์เอาท์ที่พิเศษไม่เหมือนใคร นอกจากจะเป็นทำเลที่ดีเยียมที่สุดของกรุงเทพฯ แล้ว อโศกยังมีสิ่งเบสท์ๆ ซ่อนตัวอยู่อีกมากมาย ว่าแล้วก็ลองตามมาใช้ชีวิตดีๆ ที่อโศกกันดูหน่อยไหม

opener-museum

Best Museum
พิพิธภัณฑ์เรือนคำเที่ยง (Kamthieng House Museum) / สยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่บนเรือนกาแลอันเป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิมของวัฒนธรรมถิ่นล้านนา เดิมทีเรือนนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2391 เป็นเรือนของเจ้าทางเหนือพระองค์หนึ่ง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำปิง ใน จ.เชียงใหม่ ต่อมาได้ยกให้เป็นสมบัติของสยามสมาคมฯ ในปี พ.ศ.2506 และได้มีการยกเรือนมาตั้งอยู่ ณ สถานที่ปัจจุบัน ภายในจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้โบราณ ภาพถ่าย ตลอดจนความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับวิถีวัฒนธรรมล้านนาไว้อย่างน่าสนใจ

25590209-_RPS5411

[su_tabs][su_tab title=”Details”]

Opening hours: อังคาร-เสาร์ 09.00-17.00 น. | หยุดวัน อาทิตย์-จันทร์

Location:
พิพิธภัณฑ์เรือนคำเที่ยง (Kamthieng House Museum)
สยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ 131 ถนนอโศกมนตรี, แขวงคลองเตยเหนือ, เขตวัฒนา, กรุงเทพฯ 10110
0-2661-6470-7 | siam-society.org
[su_gmap width=”1600″ address=”สยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์”][/su_gmap]

[/su_tab] [/su_tabs]


opener-artgallery

Best Art Gallery
g23 / มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

พิพิธภัณฑ์ศิลปะตลอดจนสถานที่จัดแสดงงานศิลป์มาตรฐานระดับนานาชาติที่ดูแลโดยมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ชื่อของพิพิธภัณฑ์นั้นมีที่ไปที่มาคือ ตัว g มาจากคำว่า gallery ส่วนเลข 23 นั้นมาจาก ซอยสุขุมวิท 23 หรือ ซอยประสานมิตร อันเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยนั่นเอง มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒเริ่มมีการเรียนการสอนด้านศิลปะมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2511 นับจากนั้นมาที่นี่ก็เป็นแหล่งความรู้ทางศิลปะที่สำคัญ พิพิธภัณฑ์ศิลปะนี้นอกจากจะเป็นแหล่งความรู้และจัดแสดงงานของนิสิตแล้วก็ยังเป็นแหล่งเสพงานศิลป์สำหรับคนทั่วไปอีกด้วย ตลอดจนเป็นพื้นที่จัดแสดงงานระดับสากลที่มีศิลปินระดับนานาชาติหมุนเวียนมาแสดงอย่างสม่ำเสมอ

25590209-_RPS5370

25590209-_RPS5369

[su_tabs][su_tab title=”Details”]

Opening hours: อังคาร-อาทิตย์ 11.00-19.00 น. | หยุดวันจันทร์

Location:
G23
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ 114 ซอยสุขุมวิท 23, ถนนสุขุมวิท, แขวงคลองเตยเหนือ, เขตวัฒนา, กรุงเทพฯ 10110
0-2649-5000 ต่อ 1-5306, 1-5002 | g23.swu.ac.th
[su_gmap width=”1600″ address=”g23, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ”][/su_gmap]

[/su_tab] [/su_tabs]


opener-brunchspot

Best Brunch Spot
Chu 

นี่คือร้านที่ได้รับการยกย่องในหลายๆ สื่อว่าเป็นหนึ่งใน Best Brunch & Breakfast ที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯ แรกเริ่มเดิมที Chu เป็นร้านที่มีชื่อเสียงเรื่องขนมหวานและช็อกโกแลตก่อนที่จะปรับตัวเพิ่มเมนูของคาวและเสิร์ฟความอร่อยในแบบ All Day Brunch จนกลายเป็นร้านอร่อยที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ผู้เป็นทั้งเชฟและเจ้าของร้านก็คือ คุณเต้ย-จิรยุว์ ณ ระนอง ที่เรียนทางด้านอาหารมาโดยตรงจาก Le Cordon Bleu โดยหัวใจของร้านก็คือคัดเลือกวัตถุดิบที่สะอาด ปลอดภัย สดใหม่เสมอ มาปรุงความอร่อยในตำรับโฮมเมดที่ใส่ใจทุกจาน เมนูอร่อยยอดนิยมก็ได้แก่ Egg Benedict ที่เสิร์ฟพร้อมขนมปัง Buttermilk Biscuit ในสูตรที่ทำขึ้นเอง ส่วนขนมหวานต้องลอง Homemade Pancake แพนเค้กหน้าผลไม้สดที่นำสูตรแพนเค้กสไตล์นิวยอร์กมาปรับใหม่ให้เป็นสูตรอร่อยเฉพาะตัว แล้วเมนูที่ห้ามพลาดก็คือ Single Original Hot Chocolate เมนูขึ้นชื่อของร้านตั้งแต่เริ่มต้นซึ่งช็อกโกแลตร้อนรสเข้มข้นที่คัดสรรมาจากแบรนด์คุณภาพอย่าง Saint Dominique นั่นเอง

25590209-_RPS5548

25590209-_RPS5532-2

[su_tabs][su_tab title=”Details”]

Opening hours: จันทร์-ศุกร์ 07.30-21.00 น. | เสาร์-อาทิตย์ 08.00-21.00 น.

Location:
Chu
ยูนิต 204-206 ชั้น 2 อาคาร Exchange Tower 388 ถนนสุขุมวิท, แขวงคลองเตย, เขตคลองเตย, กรุงเทพฯ 10110
0-2663-4554 | facebook.com/CHU.BKK
[su_gmap width=”1600″ address=”Chu, Asok”][/su_gmap]

[/su_tab] [/su_tabs]


opener-park

Best Park
สวนเบญจกิติ

นอกจากอโศกจะเต็มไปด้วยสตูดิโอออกกำลังกาย ตลอดจนยิมสร้างความแข็งแกร่ง เสริมสุขภาพที่ดี หลากหลายรูปแบบแล้ว ย่านนี้ก็ยังมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่เป็นทางเลือกเพิ่มเติมให้เราได้ออกกำลังกายตลอดจนพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติอันสดชื่นอีกด้วย โดยสวนเบญจกิตินี้พื้นที่สีเขียวพร้อมบึงขนาดใหญ่ที่รวมพื้นที่กว่า 130 ไร่ ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่โรงงานยาสูบเดิมที่ได้รับการปรับปรุงเป็นสวนสาธารณะเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในวาระพระชนมายุครบ 60 พรรษา โดยเปิดบริการครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2547 เป็นแหล่งออกกำลังกายกลางแจ้งได้หลากหลายประเภททั้งทางบกและทางน้ำ ตลอดจนเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจกลางกรุงที่ได้รับความนิยมมากทีเดียว

25590209-_RPS5225

25590209-_RPS5209

[su_tabs][su_tab title=”Details”]

Opening hours: ทุกวัน 04.30-21.00 น.

Location:
สวนเบญจกิติ
ถนนรัชดาภิเษก, แขวงคลองเตย, เขตคลองเตย, กรุงเทพฯ 10110
0-2254-1263 / office.bangkok.go.th/publicpark
[su_gmap width=”1600″ address=”สวนเบญจกิติ”][/su_gmap]

[/su_tab] [/su_tabs]


opener-Patisserie

Best Patisserie
Paris Mikki

ขนมหวานตำรับฝรั่งเศสแท้ๆ ที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยเชฟขนมหวานชาวไทยอย่างคุณแครอล บุษบา (Carol Boosaba) ที่เคยใช้ชีวิตอยู่ในฝรั่งเศสกว่า 9 ปี (ค.ศ.2004-2013) ก่อนจะกลับมาเปิดร้านนี้ที่เมืองไทย คุณแครอลนั้นยังเคยผ่านการทำงานในร้านขนมหวานแบรนด์ดังระดับท็อปของฝรั่งเศสมาแล้วอย่าง แอนเจลิน่า (Angelina) และ ลาดูเร่ (Laduree) ทำให้เธอได้คลุกคลีกับตำรับฝรั่งเศสอย่างถึงแก่นทีเดียว สำหรับชื่อร้าน Paris Mikki นั้นเป็นชื่อที่มาจากประโยค Paris Love Mikki ซึ่งถูกสลักไว้บนสะพานปงเดซาร์ (Pont des Arts) อันเป็นสะพานแห่งรักชื่อดังของโลกในปารีสนั่นเอง โดยคุณแครอลไปเจอแล้วชอบก็เลยนำมาตั้งเป็นชื่อร้านนี้ ในแต่ละวันจะมีการทำขนมหวานสดใหม่จากครัวกลางส่งมาที่นี่ตอนช่วงเช้าเพียงครั้งเดียวแต่ก็จะมีเสริมมาในตอนเย็นบางเมนูเท่านั้น ฉะนั้นขนมจึงมีจำนวนน้อยแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ขนมหวานที่นี่จะปรับเปลี่ยนหมุนเวียนเมนูใหม่ๆ มาให้ชิมกันเสมอๆ แต่ตัวที่เป็น Signature ของทางร้านนั้นมีอยู่ 4 อย่างด้วยกันก็คือ 1.Parisian Croissant ครัวซองตำรับฝรั่งเศสแท้กรอบนอกนุ่มในหอมเนย 2. Mille-feuille ขนมปังบางกรอบสอดใส้ครีมที่ทำมาจากวานิลลาคุณภาพเยี่ยมจากมาดากัสการ์ 3.St.Honoré ขนมตำรับฝรั่งเศสที่หาทานได้ค่อนข้างยากในเมืองไทย และ 4.Philip 70 เค้กช็อกโกแลตตำรับฝรั่งเศสที่ทำมาจากดาร์กช็อกโกแลตชั้นดีเข้ากันได้เยี่ยมกับเนื้อมูสและฐานเค้กที่ทำด้วยเฮเซลนัตกรุบกรอบ

25590210-_RPS5678

25590210-_RPS5648

25590210-_RPS5652

[su_tabs][su_tab title=”Details”]

Opening hours: อังคาร-ศุกร์ 11.00-21.00 น. | เสาร์-อาทิตย์ 09.00-21.00 น. | หยุดวันจันทร์

Location:
Paris Mikki
27 อาคารเมธาวัฒนา, ซอยสุขุมวิท 19, ถนนสุขุมวิท, แขวงคลองเตยเหนือ, เขตวัฒนา, กรุงเทพฯ 10110
088-870-0020 | facebook.com/ParisMikki
[su_gmap width=”1600″ address=”Paris Mikki, Asok”][/su_gmap]

[/su_tab] [/su_tabs]


opener-coffee

Best Coffee
Kuppadeli

หนึ่งในแหล่งลิ้มลองกาแฟที่ยอดเยียมที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ซึ่ง Kuppadeli เป็นคาเฟ่เท่ๆ ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี ค.ศ.2011 โดยเป็นแบรนด์ลูกของคาเฟ่เก่าแก่มีชื่อเสียงของกรุงเทพฯ อย่าง Kuppa (ซอยสุขุมวิท 16) ที่เปิดบริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1998 โดยเจ้าของร้านก็คือคุณ Robin Lourvanij ผู้บุกเบิกร้านกาแฟดีๆ ซึ่งถือเป็นคาเฟ่แรกในเมืองไทยที่มีเครื่องคั่วกาแฟอยู่ในร้านเบ็ดเสร็จเลยก็ว่าได้ แล้วยังบุกเบิกไร่กาแฟตลอดจนพัฒนาไปพร้อมๆ กับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ อีกด้วย กาแฟที่ขึ้นชื่อซึ่งถือเป็น Signature Blend ของที่นี่ก็คือ Kuppa Espresso สูตรดั้งเดิมตั้งแต่เริ่มเปิดร้านโดยเป็นการนำเมล็ดกาแฟอาราบิกาจากทั่วโลก 6 สายพันธุ์มาเบลนด์เป็นกาแฟตำรับเฉพาะตัวที่รสชาติโดดเด่นอย่างมีเอกลักษณ์

25590212-_RPS5986

25590212-_RPS5985

[su_tabs][su_tab title=”Details”]

Opening hours: ทุกวัน 07.00-21.00 น.

Location:
Kuppadeli
ยูนิต 219/1A อาคารอโศกทาวเวอร์ (Asoke Tower), ถนนอโศกมนตรี, แขวงคลองเตยเหนือ, เขตวัฒนา, กรุงเทพฯ 10110
0-2664-2350-1 / kuppadeli.com
[su_gmap width=”1600″ address=”Kuppadeli, Asoke Tower”][/su_gmap]

[/su_tab] [/su_tabs]


opener-Restaurant

Best Restaurant
Big Mama Pizzeria และ Big Mama Tapas Bar & Bistro

ถ้าพูดถึงพิซซ่าที่อร่อยที่สุดในกรุงเทพฯ หนึ่งในลิสต์ที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดีก็คือพิซซ่าในตำนานอย่างร้านนี้นั่นเอง ตำรับอาหารของที่นี่เป็นแบบอิตาเลี่ยนโฮมเมดแท้ๆ ที่ขึ้นชื่อเป็นพิเศษในเรื่องพิซซ่าและสปาเก็ตตี้แบบหนักเครื่องและได้รสชาติอย่างต้นตำรับ พิซซ่านั้นจะอบด้วยเตาถ่านเสิร์ฟในแบบแป้งบางกรอบแต่หน้าพิซซ้าหนานุ่มอร่อยเต็มอิ่ม เมนูพิซซ่าน่าหม่ำนั้นมีหลากหลายตำหรับแต่ตำรับที่คิดค้นขึ้นพิเศษก็คือ พิซซ่าหน้าลาบไก่ ซึ่งเป็นเมนูฟิวชั่นสไตล์อิตาเลี่ยนผสมไทยอันเป็นทีเด็ดยอดนิยมของทางร้านที่ถูกปากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติอย่างมาก แต่หากใครอยากจะลองลิ้มอาหารอิตาลีตำรับแท้ๆ ในบรรยากาศที่ชิคขึ้นมาหน่อยก็ลองแวะไปที่ Big Mama Tapas Bar & Bistro ใต้ตึกเสริมมิตรทาวเวอร์ (Serm-Mit Tower) ที่อยู่ตรงข้ามกันได้ ซึ่งนี่เป็นร้านสาขาเปิดใหม่ในอีกรูปแบบที่ให้บริการมีระดับขึ้น เสิร์ฟตำรับอร่อยเช่นเดียวกับร้านดั้งเดิมพร้อมเพิ่มเมนูพิเศษขึ้นมาอีกหลายอย่างที่น่าลองไม่แพ้กัน

25590212-_RPS5974

25590212-_RPS5964

[su_tabs][su_tab title=”Big Mama Pizzeria”]

Opening hours: ทุกวัน 11.00-24.00 น.

Location:
Big Mama Pizzeria
139 สุขุมวิท 21 ซอย 1, ถนนอโศกมนตรี, แขวงคลองเตยเหนือ, เขตวัฒนา, กรุงเทพฯ 10110 (สามารถมาจากซอยสุขุมวิท 19 ได้อีกทางด้วย)
0-2259-0232 | facebook.com/Big-mama-pizzeria-123740561048577/
[su_gmap width=”1600″ address=”Big Mama Pizzeria, Asok”][/su_gmap]

[/su_tab]

[su_tab title=”Big Mama Tapas Bar & Bistro”]

Opening hours: ทุกวัน 11.30-24.00 น.

Location:
Big Mama Tapas Bar & Bistro
137/3 สุขุมวิท 21 ซอย 1, ถนนอโศกมนตรี, แขวงคลองเตยเหนือ, เขตวัฒนา, กรุงเทพฯ 10110
0-2661-6608 | facebook.com/BigmamatapasBarandBistro
[su_gmap width=”1600″ address=”Big Mama Tapas bar & bistro”][/su_gmap]

[/su_tab] [/su_tabs]


opener-local food

Best Local Food
ย่งหลี

กลิ่นอายร้านอาหารจีนเก่าแก่ชวนให้คิดถึงวันวานตั้งแต่แรกเห็นแถมยังช่วยการันตีรสชาติอาหารแบบดั้งเดิมได้อย่างดีเยี่ยมพร้อมกันด้วย เห็นร้านเก่าๆ ธรรมดาๆ อย่างนี้แต่ขอบอกว่านี่เป็นร้านอาหารห้องแถวที่ตำรับชวนลิ้มระดับฮ่องเต้เลยทีเดียว ร้านเก่าแก่นี้อยู่คู่ย่านอโศกมาไม่ต่ำกว่า 30 ปี ยังคงเอกลักษณ์ของตำรับดั้งเดิมมาจนถึงปัจจุบัน ถึงแม้จะเป็นร้านเล็กๆ ดูโทรมๆ แต่ก็สะอาด ทำอาหารสูตรเฉพาะตัวอย่างพิถีพิถัน ลูกค้าที่แวะเวียนมามีตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงคนมีฐานะ แล้วก็รวมไปถึงชาวต่างชาติที่ตามมาชิมจากการแนะนำของหลายๆ สื่อ เมนูก้นครัวขึ้นชื่อของร้านนี้เห็นจะเป็นเป็ดย่างตำรับโบราณที่สั่งทานได้ทั้งเป็ดเปล่าๆ และบะหมี่เป็ดสุดแสนอร่อย เป็ดย่างเนื้อนุ่มหนังกรุบราดด้วยน้ำซอสรสเด็ดสูตรเฉพาะตัวของทางร้าน นอกจากนั้นก็ยังมีเมนูยอดนิยมอื่นๆ ที่อยากแนะนำให้ทานก็เช่น เกี๊ยวหมูทอด, ปลากระพงสามรสสูตรเด็ด, หรือจะเป็น บะหมี่ผัดแห้งทะเลรวมมิตร จานเด็ดที่หลายคนยกนิ้วให้

25590209-_RPS5329

25590209-_RPS5321

[su_tabs][su_tab title=”Details”]

Opening hours: ทุกวัน 11.30-15.30 น. และ 17.00-20.30 น. | หยุดวันอาทิตย์เว้นอาทิตย์

Location:
ย่งหลี
213 ซอยร่วมใจ (ซอยสุขุมวิท 15), ถนนสุขุมวิท, แขวงคลองเตยเหนือ, เขตวัฒนา, กรุงเทพฯ 10110
0-2251-5262
[su_gmap width=”1600″ address=”ย่งหลี, อโศก”][/su_gmap]

[/su_tab] [/su_tabs]


opener-bar

Best Bar
Q&A

บาร์พรีเมี่ยมระดับสากลที่มีที่นั่งจำกัดเพียงสิบกว่าที่ซึ่งต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น (และต้องแต่งกายสุภาพเท่านั้น) บรรยากาศร้านชวนย้อนสู่ยุคกลางศตวรรษที่ 20 (ราวช่วง ค.ศ.1950-1960) ที่มีเสน่ห์เฉพาะกาลเวลา เฟอร์นิเจอร์นั้นหรูหรามีระดับได้รับการออกแบบอย่างดีเยี่ยมจาก Sean Dix ดีไซน์เนอร์ชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียง เครื่องดื่มทุกรูปแบบภายในร้านได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถันจากผู้เชี่ยวชาญเรื่องเครื่องดื่มในระดับสากลโดยเฉพาะ เพิ่มบรรยากาศแห่งความชิลล์โดยดนตรีแจ๊สหลากสไตล์ที่คัดสรรบนพื้นฐานคุณภาพทางดนตรีชั้นเยี่ยมซึ่งจะช่วยเพิ่มสุนทรีย์ในค่ำคืนของคุณให้พิเศษยิ่งขึ้นไปอีก

L1003836s

L1003354s

[su_tabs][su_tab title=”Details”]

Opening hours: ทุกวัน 19.00-02.00 น. | ปิดวันอาทิตย์

Location:
Q&A
235/13 ถนนอโศกมนตรี, แขวงคลองเตยเหนือ, เขตวัฒนา, กรุงเทพฯ 10110
0-2664-1445 | 094-417-9898 | qnabar.com
[su_gmap width=”1600″ address=”q&a bar, bangkok”][/su_gmap]

[/su_tab] [/su_tabs]


opener-club

Best Club
Glow Nightclub

แหล่งแฮงค์เอาท์ยามค่ำคืนที่มาชื่อเสียงในระดับสากล และขึ้นชื่อเรื่องเพลงในสไตล์ Underground Music มากที่สุดในกรุงเทพฯ ด้วย คลับแห่งนี้เปิดตัวตั้งแต่ปี ค.ศ.2005 กลายเป็นแหล่งชิลล์เอาท์แนวหน้ามาจนถึงปัจจุบัน ที่นี่ยังเป็นแหล่งฟังดนตรีแนวล้ำสมัยที่ยอดเยี่ยมโดยจะมี DJs ที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลกสับเปลี่ยนหมุนเวียนมาสร้างสีสันยามค่ำคืนอยู่อย่างสม่ำเสมอ

25590213-_RPS6013

25590213-_RPS6039

[su_tabs][su_tab title=”Details”]

Opening hours: ทุกวัน 19.00-24.00 น.

Location:
Glow Nightclub
96/4-5 ซอยสุขุมวิท 23, ถนนสุขุมวิท, แขวงคลองเตยเหนือ, เขตวัฒนา, กรุงเทพฯ 10110
0-2261-3007 | 0-2261-4446 | 086-614-3355 | facebook.com/GlowBkk
[su_gmap width=”1600″ address=”glow nightclub, Asok”][/su_gmap]

[/su_tab] [/su_tabs]


opener-shopping

Best Shopping
Terminal 21

แหล่งไลฟ์สไตล์ชั้นน้ำที่เป็นหนึ่งในศูนย์กลางการช้อปปิ้งยอดนิยมของกรุงเทพฯ นอกจากจะเต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์ดังระดับโลกมากมายแล้ว ที่ Terminal 21 ยังเป็นศูนย์รวมของร้านค้าแบรนด์เก๋สัญชาติไทยที่งานดีไซน์โดดเด่นระดับสากล ตลอดจนร้านสินค้าคุณภาพหลากรูปแบบอีกมากมาย เราลองหยิบเอาร้านค้าที่โดดเด่นน่าสนใจมาแนะนำกันดู

25590210-_RPS5711

Labrador (ชั้น 3) แบรนด์เครื่องหนังดีไซน์เก๋ของไทยที่ดังไปทั่วโลก คัดเลือกหนังคุณภาพดีมาทำสินค้าที่มีดีไซน์เท่ๆ อย่างโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์หลากหลายรูปแบบ ทั้งยังตัดเย็บประณีต สินค้าทนทาน

25590210-_RPS5743

Tha-i Bag List (ชั้น 3) แหล่งรวมกระเป๋าผ้าเก๋ๆ เท่ๆ ที่โดดเด่นด้วยการคัดเลือกวัสดุคุณภาพดีมาตัดเย็บอย่างประณีต ที่สำคัญแบบกระเป๋าเก๋ๆ เท่ๆ ทุกใบเป็นฝีมือเจ๋งๆ ของดีไซน์เนอร์ไทยทั้งสิ้น

25590210-_RPS5723
All About You  (ชั้น 3) ร้านผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายที่คัดสรรเฉพาะผลิตภัณฑ์คุณภาพดีจากทั่วโลกซึ่งผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติรวมไปถึงส่วนผสมที่เป็นออร์แกนิก (Organic Ingredient & Pure Natural) 100% เท่านั้น ทุกผลิตภัณฑ์ปลอดสารเคมี (Non-Toxic) อ่อนละมุนต่อร่างกาย บำรุงผิวอย่างไม่เป็นพิษ สุขภาพดีอย่างปลอดภัย

25590210-_RPS5732
Hoops (ชั้น 2) ร้านอุปกรณ์กีฬาเฉพาะทางที่มุ่งเน้นเฉพาะกีฬาบาสเก็ตบอลเท่านั้น ภายในร้านมีขายตั้งแต่ลูกบาส, รองเท้าเท่ๆ, เสื้อผ้าโดน, ไปจนถึงอุปกรณ์เจ๋งๆ อื่นๆ ที่มีผู้เชี่ยวชาญคอยแนะนำ

[su_tabs][su_tab title=”Details”]

Opening hours: ทุกวัน 10.00-22.00 น.

Location:
Terminal 21
88 ซอยสุขุมวิท 19, ถนนสุขุมวิท, แขวงคลองเตยเหนือ, เขตวัฒนา, กรุงเทพฯ 10110
0-2108-0888 / terminal21.co.th
[su_gmap width=”1600″ address=”terminal 21, Asok”][/su_gmap]

[/su_tab] [/su_tabs]

นี่คือส่วนหนึ่งของอโศก ย่านที่ได้ชื่อว่าเป็น “Best of สุขุมวิท” ซึ่งเต็มไปด้วยความเป็น “ที่สุด” หลากหลายรูปแบบซ่อนตัวอยู่ในย่านอันมีเสน่ห์ที่ผสมผสานกลิ่นอายอดีตเข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว ทำเลที่ยอดเยี่ยมนี้ยังเป็นที่ตั้งของที่อยู่อาศัยคุณภาพอย่าง Noble BE19 คอนโดมีเนียมดีไซน์เท่ที่หลบเข้ามาจากถนนสายหลักอันพลุกพล่านเข้ามาในซอยสุขุมวิท 19 เพียงนิดเดียว แต่มีความร่มรื่นส่วนตัว เพียบพร้อมล้อมรอบไปด้วยคุณภาพชีวิตที่ดีตลอดจนสามารถเชื่อมสู่เส้นทางต่างๆ ทั่วมหานครได้อย่างไร้รอยต่อ เป็นตัวเลือกที่วิเศษสุดสำหรับคนเมืองยุคใหม่ที่ต้องการมีวิถีชีวิตใจกลางกรุงอันพร้อมสรรพ ในย่านที่ถือเป็น “Best of อโศก” อย่างแท้จริง


 

Photography by  Sharp Jaruwat P.

นักเดินทางที่เป็นทั้งนักเขียนและช่างภาพในตัว เขียนงานให้กับสื่อต่างๆ ในเมืองไทยมากมายตั้งแต่สารคดีหนักๆ, บทสัมภาษณ์, ไปจนถึงเรื่องดีไซน์และแฟชั่น แต่ผลงานที่โดดเด่นเห็นจะเป็นบทความด้าน Food & Travel ที่เขียนถึงทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่เขาหลงรักอย่างญี่ปุ่น

Magazine made for you.