10 ย่าน hipster ที่ฮิปที่สุดทั่วโลก

เมื่อนึกถึง hipster หลายคนอาจจะคิดว่า อเมริกาคือประเทศพ่อประเทศแม่ ที่ให้กำเนิดกลุ่มคนที่มีระดับความเป็นปัจเจกสูงเหนือมนุษย์เหล่านี้ แต่ที่จริงแล้วในประเทศต่างๆทั่วโลก ตั้งแต่สิงค์โปร์ไปจนถึงอิสราเอล ล้วนมีชุมชนของกลุ่มคนนอกกระแสตั้งอยู่ทั้งสิ้น และนี่คือ 10 ย่าน hipster ที่ฮิปที่สุดทั่วโลก

10. Kreuzberg — Berlin, Germany
พื้นที่ส่วนนี้ของเบอร์ลิน เป็นย่านที่ประวัติศาสตร์ punk rock หยั่งรากลึกมายาวนาน แม้แต่ศิลปินพังค์ผู้โด่งดังในอดีตอย่าง Iggy Pop เองก็เคยอาศัยอยู่ที่นี่ และวัฒนธรรมนี้ก็ยังคงสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ใครที่ต้องการประสบการณ์ยามราตรีอันดุเดือดกับดนตรีสด สามารถแวะไปที่ punk club ระดับตำนานอย่าง SO36 ได้ ส่วนในเวลากลางวัน เบอร์ลินเนอร์ที่ Kreuzberg (คร้อยซ์แบร์ก) นิยมไป beach bar ริมแม่น้ำชเปร และจัด pool party กันที่ สระว่ายน้ำที่ลอยอยู่กลางแม่น้ำ (Badeschiff) เพราะสระว่ายน้ำบนดินแบบปรกติมัน “ธรรมดา” เกินไปสำหรับคนย่านนี้

9. Malasaña — Madrid, Spain
Malasaña (มาลาซานญ่า) คือย่านที่ประกาศตัวเป็นศูนย์กลางของความ “แตกต่าง” ที่เป็นดั่งที่พักพิงของเหล่านักปั่นฟิกซ์เกียร์เคราดก ความลึกของเสื้อคอ V ที่นี่ ว่ากันว่าน่าจะลึกที่สุดในทวีปยุโรป ตลอดสองฝั่งถนนในย่านนี้ เรียงรายไปด้วย ร้านกาแฟเก๋ๆ ร้านหนังสือแปลกๆและ ร้านเสื้อผ้ามือสองที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนแต่งกายจัดจ้าน ที่ออกมาตามล่าหาไอเทมวินเทจกัน

หมายเหตุ: ที่สเปนเรียก Hipster ว่า ‘modernos’ แปลเป็นไทยแบบบ้านๆได้ว่า “คนที่ชื่นชอบหลอดไฟของเอดิสันตั้งแต่คนอื่นยังใช้เทียนกันอยู่”

8. Tiong Bahru — Singapore
Tiong Bahru (ทง บารูห์) ย่านเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 1930 แห่งนี้ เคยถูกใช้เป็นที่ซ่อนเมียน้อยของเหล่านักธุรกิจผู้มั่งคั่งในอดีต ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นที่ตั้งของแหล่งรวมร้านอาหารเก๋ๆ คาเฟ่ที่ขายกาแฟแพงกว่าข้าว และร้านสุดฮิปที่ขายแว่นตาเขาสัตว์ (horn-rimmed glasses) และแว็กซ์จัดทรงหนวด ซึ่งแน่นอนว่า หากคุณไปถามถึงเรื่อง “ความเป็น hipster” กับคนในย่านนี้ คงไม่มีใครยอมรับ เพราะสำหรับพวกเขา นี่คือวิถีชีวิตที่แสนจะปรกติธรรมดา และเป็นตัวของพวกเขาเอง

7. Shoreditch — London, UK
ไม่มีใครที่เคยใช้ชีวิตในลอนดอน ไม่รู้จักความ “ติสต์” ของ Shoreditch และถึงแม้ว่าย่านอื่นๆอย่าง Dalston หรือ Peckham จะถูกเรียกว่า “the new Shoreditch” แต่นั่นก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนอยู่แล้ว ว่า Shoreditch คือย่านที่เป็นต้นตำรับความฮิปที่มีมาก่อน ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่เหล่าศิลปินและกลุ่มคนทำงานสร้างสรรค์ ได้ย้ายเข้ามาในย่านนี้ ที่เคยเป็นพื้นที่อุตสาหากรรม (ซึ่งมีค่าเช่าถูกกว่าย่านอื่นในลอนดอน) แล้วแปลงสภาพย่านนี้ให้กลายเป็นเป็นที่อยู่และสตูดิโอทำงาน จนกลายเป็นชุมชนคนนอกกระแสที่ฮิปที่สุดของลอนดอนมาจนถึงปัจจุบัน

6. Södermalm — Stockholm, Sweden
ชาวสวีเดนหลงใหลย่านบรู๊คลินกันมาก ดังนั้น จึงไม่แปลกที่ย่านที่ฮิปที่สุดของสต๊อล์กโฮล์ม จะมีความคล้ายกับบรู๊คลิน ที่นี่เป็นอีกฐานการผลิตของหนึ่งใน craft beer ที่มีชื่อเสียงที่สุดในนิวยอร์กอย่าง Brooklyn Brewery และมีแม้กระทั่งย่านที่ชื่อว่า SoFo ที่ฟังดูคล้ายกับ SoHo

หมายเหตุ: หากจะเดินทางไปที่ย่านนี้ โปรดทราบว่าคนที่นี่เรียกชื่อย่านนี้สั้นๆว่า Söder (เซอร์เดอร์) โดยจะไม่เรียกชื่อเต็มๆว่า Södermalm (เซอร์เดอร์มาล์ม) สันนิษฐานว่าคนที่นี่เลิกเรียกชื่อเต็มกันตั้งแต่ IKEA วางจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์เครื่องนอนภายใต้ชื่อ Södermalm ในปี 2003 ซึ่งทำให้การเรียกชื่อเต็มของย่านนี้ กลายเป็นการพูดชื่อเฟอร์นิเจอร์ที่ตกรุ่นไปแล้ว

5. Fitzroy — Melbourne, Australia
ย่าน Fitzroy (ฟิทซ์รอย) คือถิ่นคนศิลป์ของออสเตรเลีย เป็นสถานที่จัดเทศกาลศิลปะ Melbourne Fringe Festival ที่จัดติดต่อกันมายาวนานกว่า 32 ปี และได้ดึงดูดเหล่าศิลปินจากหลากหลายสาขาเข้ามาตั้งรกราก จนเกิดเป็นชุมชนสร้างสรรค์ (creative community) ขึ้นที่นี่ แต่จะยั่งยืนแค่ไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับเวลา เพราะหลังจากที่ย่านนี้เกิดมีชื่อเสียงขึ้น hipster หน้าใหม่ก็เริ่มหลั่งไหลเข้ามา จนเกิดความ “หนาแน่นทางความฮิป” ขึ้น จนว่ากันว่ากลุ่มคน “เหนือกระแส” ที่อยู่มาก่อน วางแผนที่จะอพยพไปสร้างอาณานิคมใหม่ที่ย่าน Brunswick ซึ่งเป็นย่านเด็กแนวอันดับสองของเมืองนี้

4. Vesterbro — Copenhagen, Denmark
ในอดีต Vesterbro (เวสเตอร์โบร) เคยเป็นที่รู้จักในฐานะย่านของชนชั้นแรงงาน ที่เต็มไปด้วยพ่อค้าเนื้อสัตว์ และมีชื่อเสียงทางด้านอุตสาหกรรมเซ็กส์ แต่ในไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ การย้ายเข้ามาของคนจากถิ่นอื่น โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียนศิลปะ ได้สร้างความเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดธุรกิจสร้างสรรค์ขนาดเล็กต่างๆ อย่างเช่นบริษัทสถาปนิก สตูดิโอและแกลอรี่ศิลปะ ไปจนกระทั่งร้านกาแฟและโรงแรม ผุดขึ้นในย่านนี้มากมาย จนกลายเป็นชุมชนสร้างสรรค์ที่ที่ตั้งอยู่ในเมืองที่มีความฮิปอยู่แล้วอย่างโคเปนเฮเกน นอกจากนั้น ที่นี่เป็นอีกหนึ่งเมืองที่เป็นมิตรต่อจักรยานมากที่สุดในยุโรป (รองจากอัมสเตอร์ดัม) ซึ่งเหมาะเจาะเป็นอย่างยิ่ง สำหรับเหล่า hipster ผู้คลั่งไคล้การปั่น

3. Amsterdam-Noord  — Amsterdam, Netherlands
พื้นที่โกดังอุตสาหกรรมเก่าแห่งย่าน Amsterdam-noord (อัมสเตอร์ดัม-นอร์ด) แห่งนี้ ได้ถูกเหล่า hipster เข้ายึดและปรับปรุงใหม่ให้กลายเป็นแกลอรี่ศิลปะ ลานสเก็ตบอร์ด ตลาดนัดและร้านอาหาร pop-up รวมไปถึง เทศกาลดนตรี ราวกับเป็นการหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความฮิป เพื่อปลูกโครงข่ายและฝังรากของชุมชนคนสร้างสรรค์ลงที่นี่ มีการเริ่มต้นธุรกิจสายครีเอทีฟขึ้นมากมาย แม้แต่ Redbull และ Mtv ยังได้มาเปิดออฟฟิสขึ้นที่บริเวณริมน้ำของย่านนี้

2. Florentin — Tel Aviv, Israel
เช่นเดียวกับย่านฮิปในประเทศอื่นๆ ที่งาน street art นั้นสามารถพบเห็นได้ทั่วไป แต่ที่ Florentin (ฟลอเรนทีน) นักท่องเที่ยวที่เดินทางมา อาจจะสะดุดกับความแปลกตาของงาน graffti ที่เป็นภาษาฮีบรู เสน่ห์ที่ทำให้ความฮิปของที่นี่แตกต่างจากที่อื่นๆ คือการที่วัฒนธรรมดั้งเดิมของคนท้องถิ่น (ชาวยิว) ผสมผสานเข้ากับวิถีชีวิตร่วมสมัย ทำให้ความเก่าและความใหม่มาบรรจบกัน ในช่วงทศวรรตที่ผ่านมา กลุ่มนักเรียนศิลปะ และคนทำงานสร้างสรรค์ได้ย้ายเข้ามาพักอาศัยในเขตนี้ เนื่องจากเป็นย่านของชนชั้นแรงงานที่ค่าครองชีพต่ำ และภายในเวลาไม่กี่ปี Florentin ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งของนักท่องราตรี ที่มีร้านอาหาร ผับ และบาร์ที่ฮิปที่สุดใน Tel Aviv ตั้งอยู่มากมาย

1. Williamsburg — New York, New York
คงจะไม่เกินไปหากจะกล่าวว่านิวยอร์ก คือเมืองศูนย์กลางของจักรวาลสำหรับคนหัวใหม่ และถ้าจะมีที่ไหนที่เป็นดั่ง”เมกกะ” ของเหล่า hipster ก็คงจะเป็นที่อื่นไปไม่ได้ นอกจากย่าน Williamsburg (วิลเลี่ยมส์เบิร์ก) ที่ซึ่งเป็นบ้านของวงดนตรีนอกกระแสแทบจะทุกแนวเพลง ศิลปินทุกแขนง เป็นที่ตั้งของโรงละครอินดี้, แกลอรี่ศิลปะ, เทศกาลดนตรี, flea-market เป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมการกินหลากหลายรูปแบบ ทั้งดั้งเดิมและพิศดาร ที่มีกาแฟคั่วใหม่หอมๆให้จิบตอนสาย และมี craft เบียร์สูตรพิเศษให้ซดยามบ่าย มีร้านอาหาร pop-up นับไม่ถ้วนให้เปลี่ยนบรรยากาศได้ตลอดเวลา และมีพาเหรด hipster แต่งตัวจัดจ้านเดินกันขวักไขว่ทุกหัวมุมถนน

อาจมีบางคนมองว่าเมืองพอร์ทแลนด์ รัฐโอเรกอน ก็เป็นอีกหนึ่งเมืองหลวงของเหล่า hipster ทางฝั่ง West Coast แต่เมื่อเทียบกับนิวยอร์กที่เป็นเมืองเบ้าหลอมซึ่งมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมสูงกว่า และมีประวัติศาสตร์มายาวนานกว่า Williamsburg จึงครองตำแหน่งชุมชน hipster อันดับหนึ่งของโลกไป

[hr align=”center” style=”dotted”]

Source: Thrillist