10 ICONIC ROADS AROUND THE WORLD | 10 ถนนสวยเส้นสำคัญแห่งมหานครทั่วโลก
ไม่มีวิธีไหน ที่จะทำให้เรารู้จักเมืองเมืองหนึ่ง ได้ดีกว่าการออกไปเดินตามท้องถนน การได้ซึมซับบรรยากาศเมือง สังเกตผู้คน สนทนาแบบงูๆปลาๆ กับคนในท้องถิ่น หรือแม้แต่ นั่งจิบกาแฟ มองรถราวิ่งผ่านไปมา บางครั้ง ก็อาจทำให้สัมผัสถึงความเป็นเมืองนั้นๆ ได้ดีกว่าการอ่านไกด์บุ๊คทั้งเล่มด้วยซ้ำไป
มหานครต่างๆ ทั่วโลก ล้วนมีถนนเส้นหลัก ที่เชื่อมต่อจุดสำคัญต่างๆของเมืองเข้าด้วยกัน ซึ่งบางแห่งได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนั้นๆไป หลายเส้นมีอายุยาวนาน ถูกพัฒนาผ่านการออกแบบอย่างลึกซึ้ง และได้ดึงดูดเอาความเจริญทางวัฒนธรรมด้านต่างๆมารวมกัน ไม่ว่าจะด้านประวัติศาสตร์ ศิลปะ สถาปัตยกรรม แฟชั่น ไปจนกระทั่งอาหารการกิน ที่สะท้อนให้เห็นว่าผู้คนในแต่ละเมืองมีวิถีชีวิตกันอย่างไร ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ถนนเส้นต่างๆมีเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะตัว ที่กลายเป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เดินทางไปเยี่ยมชม และนี่คือ 10 ถนนสวยเส้นสำคัญจากมหานครต่างๆที่เราควรรู้จัก และลองไปสัมผัสกันดูสักครั้ง
1. Champs Élysées – Paris, France
แทบทุกคนที่เดินทางมาปารีสเป็นครั้งแรก จะต้องแวะไปเดินเตร็ดเตร่ ช้อปปิ้งกันที่ Champs Élysées ถนนที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ถนนที่สวยที่สุดในโลก” ที่มีแนวต้นไม้เขียวชอุ่มทอดยาวตลอดทั้งเส้นเป็นภาพจำ ถนนที่มีชื่อเสียงที่สุดของปารีสเส้นนี้ ในอดีตเคยเป็นเพียงทุ่งโล่งและสวนครัวรอบนอกพระราชวัง จนกระทั่งถูกตัดและขยายให้กลายเป็นถนนใหญ่ที่สวยงามขึ้นในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เมื่อปีค.ศ. 1667 เพื่อเชื่อมต่อพระราชวัง Louvre กับสวน Tuileries ด้วยจุดประสงค์ที่จะเรียกร้องความสนใจและสร้างแรงกระตุ้นให้พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 (ซึ่งในขณะนั้นทรงพำนักอยู่แต่ที่พระราชวัง Versailles) พระราชดำเนินกลับมาพำนักที่กรุงปารีส เมืองหลวง ด้วยเหตุนี้เองปารีสจึงมีถนนเส้นใหม่ซึ่งกลายมาเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองและของประเทศในเวลาต่อมา
ถนน Champs Élysées ตั้งต้นจากประตูชัย Arc de Triomphe ทางฝั่งตะวันตก ซึ่งประกอบไปด้วย โรงแรม ร้านอาหาร คาเฟ่ ธนาคาร และร้านค้าแบรนด์หรูระดับโลกมากมาย สู่ Place de la Concorde ทางฝั่งตะวันออก ซึ่งเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงความเจริญทางวัฒนธรรมของปารีส ที่ประกอบไปด้วยสวน Jardin des Champs-Élysées ซึ่งเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์และพื้นที่จัดแสดงขนาดใหญ่ Grand Palais, หอศิลป์ Petit Palais, โรงละคร Théâtre Marigny และสวน Tuileries Garden ที่ปลายสุดของ Place de la Concorde
2. Kurfürstendamm – Berlin, German
มีคนเปรียบเทียบว่าถนน Kurfürstendamm หรือที่ชาวเบอร์ลินเรียกกันสั้นๆว่า Ku’damm ว่าเป็น Champs Élysées แห่งเบอร์ลิน ซึ่งก็ถือว่าไม่ผิดนัก เพราะที่มาและความเก่าแก่ของถนนทั้งสองเส้นนั้นก็พอๆกัน Ku’damm ถูกสร้างขึ้นเพื่อเชื่อมพระราชวังเบอร์ลินกับวังสำหรับล่าสัตว์ที่ Grunewald ช่วงเวลาในการก่อสร้างนั้นไม่ปรากฏชัดเจน แต่ถนนเส้นนี้ปรากฎอยู่บนแผนที่เมืองเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปีค.ศ. 1685 และด้วยความที่ถนนเส้นนี้ไม่มีจุดกำเนิดชัดเจน จึงได้มีการกำหนดให้วันที่ 5 พฤษภาคม ค.ศ.1886 ซึ่งเป็นวันแรกที่รถรางพลังไอน้ำของเบอร์ลินเปิดวิ่งเป็นวันแรก เป็น “วันเกิด” ของถนน Ku’damm ทำให้ถนนเส้นนี้เป็นถนนที่มีวันเกิดเป็นของตัวเอง
ปัจจุบัน Ku’damm เป็นที่ตั้งของร้านอาหาร และ ร้านค้าแบรนด์หรูมากมาย โรงแรมชั้นนำอย่าง Kempinski ซึ่งถือเป็นโรงแรมหรูแห่งแรกของยุโรปก็ตั้งอยู่บนถนนเส้นนี้เช่นกัน นอกจากนี้ Ku’damm ยังเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างซากปรักหักพังของ Kaiser Wilhelm Memorial Church ที่ถูกทำลายจากการทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งทุกวันนี้ได้กลายมาเป็นอนุสรณ์สถานและสัญลักษณ์สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเบอร์ลิน
3. Rua Gonçalo de Carvalho – Porto Alegre (Rio Grande do Sul), Brazil
ถนนเส้นนี้ไม่ได้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อบุคคลสำคัญ ไม่ได้เป็นแม้กระทั่งย่านช้อปปิ้งหรือแหล่งท่องเที่ยว เป็นเพียงย่านที่อยู่อาศัยซึ่งเพิ่งเป็นที่รู้จักในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมานี้เท่านั้น แต่ถนน Rua Gonçalo de Carvalho ก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นถนน “อุโมงค์ต้นไม้” ที่สวยที่สุดในโลก
ถนนเส้นนี้มีความน่าสนใจเพราะมันไม่ได้ถูกพัฒนาขึ้นจากโครงการของทางรัฐ แต่เกิดขึ้นเองจากน้ำพักน้ำแรงของผู้อยู่อาศัยในชุมชนกันเอง ที่ค่อยๆปลูกและเลี้ยงดูต้น Tipuana ซึ่งเป็นต้นไม้ใหญ่พันธุ์ท้องถิ่นอายุ 70 ปีกว่า 100 ต้นเหล่านี้กันมาตั้งแต่ช่วงยุค 1930s จนปัจจุบันมีความสูงเกือบ 30 เมตรหรือประมาณตึก 7 ชั้นเลยทีเดียว ในปีค.ศ. 2005 มีบริษัทเอกชนวางแผนจะตัดโค่นต้นไม้เพื่อสร้างห้างสรรพสินค้าและลานจอดรถ ประชาชนจึงรวมตัวกันต่อสู้ประท้วงเพื่ออนุรักษ์ถนนและต้นไม้ในชุมชนของพวกเขาเอาไว้ สุดท้ายกลุ่มผู้มีอำนาจต้องยอมถอย และนายกเทศมนตรี José Fogaça ก็ได้ประกาศให้ถนนเส้นนี้เป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ของเมือง
4. Avenida 9 de Julio – Buenos Aires, Argentina
Avenida 9 de Julio หรือ “ถนน 9 กรกฎา” แห่งกรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนติน่า เป็น avenue ที่กว้างที่สุดในโลก ที่กว้างถึง 14 เลน มีความยาวประมาณ 140 เมตร ที่ว่ากันว่าต้องใช้เวลาหลายนาทีในการข้ามและต้องผ่านสัญญาณไฟจราจร 2-3 รอบกว่าจะถึงอีกฝั่งของถนนได้เลยทีเดียว
กรุงบัวโนสไอเรสได้รับการขนานนามว่าเป็นปารีสแห่งทวีปอเมริกาใต้ และถนน Avenida 9 de Julio ก็สร้างขึ้นตามแบบ Champs Élysées นั่นเอง ถนนเส้นนี้เป็นศูนย์กลางของเมือง การเฉลิมฉลองต่างๆอย่างเช่นการฉลองชัยทีมฟุตบอลจะจัดขึ้นที่นี่ มีสัญลักษณ์สำคัญที่โดดเด่น คือ Obelisco de Buenos Aires อนุสาวรีย์แท่งหินที่มีปลายยอดเป็นพีระมิด ซึ่งเป็นสถานที่ที่ธงอาร์เจนตินาถูกเชิญูขึ้นสู่ยอดเสาเป็นครั้งแรก ที่มาของชื่อถนน Avenida 9 de Julio (9th of July avenue) นั้นก็ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่วันประกาศอิสรภาพของประเทศอาร์เจนติน่าเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ค.ศ.1816 ถนนเส้นนี้จึงเป็นเหมือนอนุสรณ์แห่งการประกาศเอกราชของประเทศอาร์เจนติน่านั่นเอง
5. Passeig de Gràcia – Barcelona, Spain
หากใครเดินทางไปบาร์เซโลน่าแล้วไม่ไปเหยียบถนนเส้นนี้ คงเรียกได้ว่ามาไม่ถึงบาร์เซโลน่า Passeig de Gràcia นอกจากจะเป็นที่ตั้งของผลงานของสถาปัตยกรรมระดับโลก อย่าง Casa Milà (La Pedrera) และ Casa Batlló ของ Antoni Gaudí แล้ว ยังเป็นที่รู้กันว่า Passeig de Gràcia เป็นถนนที่แพงที่สุดในบาร์เซโลน่าและในประเทศสเปน
Passeig de Gràcia แปลตรงตัวว่า “ถนนสู่ Gracia” ถนนเส้นนี้สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมตัวเมือง Barcelona กับย่าน Gràcia ซึ่งในสมัยศตวรรตที่ 19 นั้นยังถือเป็นคนละเมืองกันอยู่ แต่เดิมเคยใช้ชื่อว่า “Camí de Jesús” ซึ่งแปลว่า “เส้นทางของพระเยซูเจ้า” ถนนเส้นนี้เป็นถนนแห่งศิลปะ แฟชั่น และการออกแบบของบาร์เซโลน่ามายาวนานนับร้อยปี รายละเอียดงานออกแบบตั้งแต่สถาปัตยกรรมไปจนกระทั่งเสาไฟของถนนเส้นนี้ล้วนแล้วแต่หรูเลิศอลังการ สถาปนิกคาตาลัญชื่อดังในยุค modernism อย่าง Antoni Gaudí, Lluís Domènech i Montaner, Josep Puig i Cadafalch และ Enric Sagnier ล้วนแล้วแต่เคยมาสร้างผลงานของตนเองกันบนถนนเส้นนี้แล้วทั้งนั้น ในอดีตชนชั้นสูงและขุนนางในศตวรรตที่ 19 จะนิยมออกมาพบปะกันบนถนนเส้นนี้เพื่อแสดงทักษะการขี่ม้าและเพื่อโอ้อวดประชันรถม้าหรูหราของตน ปัจจุบัน Passeig de Gràcia ยังคงเป็นย่านธุรกิจการค้าที่สำคัญ สองฟากฝั่งของถนนเส้นนี้เต็มไปด้วยร้านสินค้าแบรนด์ดีไซน์ชื่อดัง ตลอดจนโรงแรม 5 ดาว และร้านอาหารระดับ Michelin มากมาย
Orchard Road เป็นเสมือนเส้นเลือดใหญ่ของสิงคโปร์ เป็นย่านการค้าศูนย์รวมทางแฟชั่น ร้าน flagship store ของแบรนด์ดังระดับโลกมากมายล้วนตั้งอยู่ที่นี่ ในอดีตช่วงศตวรรตที่ 19 ถนนเส้นนี้เคยเป็นเส้นทางที่มุ่งสู่ย่านสวนผักผลไม้ (orchard) ที่ยุคนั้นนิยมใช้ปลูกต้นจันทร์เทศ พริกไทย และ ผลไม้ ซึ่งในเวลาต่อมาถนนเส้นนี้ถูกพัฒนาให้กลายมาเป็นย่านการค้าในช่วงปีค.ศ. 1970
Orchard Road ยังเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญมากมาย ทางทิศใต้มีทำเนียบประธานาธิบดี (Istana) ที่เคยเป็นที่พำนักของอดีตประธานาธิบดีของสิงค์โปร์ ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นสถานที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง มีพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ (National Museum of Singapore) และพิพิธภัณฑ์ศิลปะสิงคโปร์ (Singapore Art Museum) ส่วนทางทิศเหนือเป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้ามากมาย หนึ่งในนั้นคือ TANGS ห้างหรูแห่งแรกของสิงคโปร์ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1958 นอกจากนี้เมื่อเดินต่อขึ้นไปจนสุดถนนยังมีสวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ของเมืองตั้งอยู่อีกด้วย
7. Wireless Road – Bangkok, Thailand
ถนนวิทยุ (Wireless Road) ถือเป็นถนนเส้นสำคัญที่มีเอกลักษณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร ด้วยแนวต้นไม้ใหญ่อย่างต้นหางนกยูงฝรั่ง, ตะแบก, อินทนิลน้ำ, มะขาม, อินทรชิต อายุนับ 100 ปีที่ให้บรรยากาศร่มรื่นตลอดสาย ทำให้ไม่ว่าใครที่เลี้ยวเข้ามาบนถนนเส้นนี้ จะต้องรู้สึกเหมือนกำลังขับรถอยู่ต่างประเทศ เหตุก็เพราะในอดีตสถานฑูตสหรัฐได้ขอให้อนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่ทั้งหลายไว้ ไม่ให้ตัด เพื่อให้ถนนเส้นนี้ มีลักษณะเป็น boulevard เหมือนในต่างประเทศ
ถนนวิทยุเป็นย่านพักอาศัยของชนชั้นสูงในอดีต เป็นที่ตั้งของวังคันธวาส (ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นโรงแรมพลาซ่าแอนธินี) วังวิทยุ (ยังคงอยู่ในปัจจุบัน) และ สมาคมราชกรีฑาสโมสรโปโลคลับ นอกจากนี้บนถนนวิทยุยังแวดล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญระดับประเทศมากมาย อย่างเช่น สถานฑูตสหรัฐอเมริกา, สถานฑูตสหราชอาณาจักร, สถานฑูตญี่ปุ่น, สถานฑูตสวิตเซอร์แลนด์ และอีกมากมายหลายสถานฑูต ทำให้ถนนเส้นนี้มีบรรยากาศที่เงียบสงบเนื่องจากไม่ค่อยมีร้านรวงห้องแถวที่จอแจ ถนนวิทยุถูกสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1920 (พ.ศ. 2463) เพื่อเชื่อมต่อถนนพระรามที่ 4 เข้ากับถนนเพชรบุรี ตัดผ่านถนนสารสินและถนนเพลินจิต โดยมีสวนลุมพินี สวนสาธารณะแห่งแรกในประเทศไทยที่สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 เป็นสัญลักษณ์สำคัญอยู่ทางด้านทิศใต้ ซึ่งในสมัยนั้นฝั่งตรงข้ามของสวนลุมพินี (บริเวณสวนลุมไนท์บาซาร์เก่า) เคยเป็นที่ตั้งของสถานีวิทยุแห่งแรกของประเทศไทย ถนนเส้นนี้จึงได้รับพระราชทานนามว่า “ถนนวิทยุ”
8. Andrássy út – Budapest, Hungary
บนโลกนี้มีถนนเพียงไม่กี่เส้นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นพื้นที่มรดกโลกโดย UNESCO และถนน Andrássy út แห่งกรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการีคือหนึ่งในนั้น ถนนเส้นนี้เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมของบูดาเปสต์ ที่งดงามและโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบ neo-renaissance สองฟากฝั่งถนน ซึ่งเคยเป็นที่พักอาศัยของชนชั้นสูง ขุนนาง นายธนาคาร และ เศรษฐีที่ดินในสมัยก่อน และเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญอย่าง Hungarian State Opera House และ Franz Liszt Academy of Music วิทยาลัยและหอแสดงดนตรีที่ก่อตั้งโดย Franz Liszt คีตกวีและนักเปียโนชาวฮังการีชื่อก้องโลกในศตวรรษที่ 19
ชื่อของถนน Andrássy út ตั้งขึ้นตาม Count Gyula Andrássy นายกรัฐมนตรีผู้ริเริ่มโครงการในปีค.ศ. 1872 เพื่อเชื่อมย่าน Városliget (City Park) เข้ากับย่าน Vörösmarty tér ใจกลางกรุงบูดาเปสต์ ไม่ไกลจาก St. Stephen’s Basilica โบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ประจำเมืองเท่าใดนัก โครงการก่อสร้างถนนเสร็จสมบูรณ์ในปีค.ศ. 1885 และภายในเวลาไม่กี่ปีหลังจากนั้น บูดาเปสต์ก็ได้สร้าง Millennium Underground (M1 metro) เส้นทางรถไฟใต้ดินสายที่เก่าแก่ที่สุดในทวีปยุโรป(แผ่นดินใหญ่) และเก่าแก่เป็นอันดับสองของโลก (รองจากรถไฟใต้ดินของลอนดอน) ที่ปัจจุบันมีอายุเก่าแก่ถึง 119 ปี เพื่อวิ่งให้บริการขนานอยู่ใต้ถนน Andrássy út แห่งนี้อีกด้วย
9. Fifth Avenue – New York City, USA
หลายคนอาจจะรู้จัก Fifth Avenue ในฐานะถนนช้อปปิ้งทีมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีภาพจำเป็น Audrey Hepburn ยืนจ้องหน้าต่างร้าน Tiffany & Co. จากภาพยนตร์อมตะเรื่อง Breakfast at Tiffany’s หรือภาพ Sarah Jessica Parker เดินเฉิดฉายกับแก๊งเพื่อนสาวในซีรียส์ Sex and the City ซึ่งสะท้อนวิถีชีวิตฟู่ฟ่าของนิวยอร์กได้เป็นอย่างดี
Fifth Avenue ไม่ใช่แค่ย่านช้อปปิ้งแต่เป็นถนนเส้นสำคัญที่แบ่งเกาะ Manhattan ออกเป็น East และ West ทอดยาวตั้งแต่ Washington Square Arch ไปจนถึงย่าน Harlem และมีช่วงหนึ่งที่ขนานไปกับ Central Park ซึ่งเป็นดั่งปอดของเกาะแมนฮัตตัน ผ่านย่านหลักและสถานที่สำคัญมากมาย เช่น Empire State Building, Rockefeller Center, Trump Tower, The New York Public Library, St.Patrick’s Cathedral พิพิธภัณฑ์และหอศิลปะระดับโลกอย่าง Guggenheim Museum และ The Metropolitan Museum of Art ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสปลายเดือนธันวาคม ร้านค้าตามถนนจะตกแต่ง window display และประดับประดาไฟหน้าร้านอย่างสวยงาม ถือเป็นช่วงเวลาที่มีเสน่ห์ที่สุดช่วงหนึ่งของ
10. Omotesandō – Tokyo, Japan
โอโมเตะซันโด คือถนนช้อปปิ้งในเขตชิบุยะที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมล้ำสมัยและแฟชั่นแบรนด์ดังจากทั่วโลก flagship store ในย่านนี้ไม่ใช่แค่ร้าน แต่เป็นการสร้างอาคารขึ้นมาใหม่โดยสถาปนิกระดับโลก อย่างเช่น ตึกแก้วของ Prada ที่ออกแบบโดย Herzog & de Meuron, ตึก Louis Vuitton โดย Jun Aoki, ตึก Dior โดย SANAA รวมไปถึงห้างสรรพสินค้าอย่าง Omotesandō Hills ที่ออกแบบโดย Tadao Ando
ถนนโอโมเตะซันโด สร้างขึ้นในยุคไทโช (ระหว่างปีค.ศ. 1912-1926) เพื่อเป็นถนนทางเข้าสู่หน้าศาลเจ้าเมจิ ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศถวายแด่ดวงวิญญาณของสมเด็จพระจักรพรรดิเมจิ และสมเด็จพระจักรพรรดินีโชเก็ง สองฟากฝั่งของถนนเส้นนี้เรียงรายไปด้วยต้นเซลโคว่าบรรยากาศร่มรื่น จนมีคนขนานนามให้ว่าเป็น Champs Élysées (อีกแล้ว) แห่งโตเกียว ปัจจุบันนี้ถนนโอโมเตะซันโดเป็นแหล่งรวมวัยรุ่นและนักท่องเที่ยวที่คราคร่ำไปด้วยผู้คนตลอดทั้งปี เต็มไปด้วยร้านอาหารและคาเฟ่สุดฮิป แกลอรี่ศิลปะ และสตูดิโอของแฟชั่นดีไซน์เนอร์ท้องถิ่นมากมาย