NEPAL: 15 ข้อที่นักเดินทางจะได้เรียนรู้จาก Manaslu Circuit “เส้นทางโรงน้ำชาแห่งเนปาล”

Manaslu คือดินแดนแห่งธรรมชาติ ที่ซ่อนตัวอยู่ระหว่างเทือกเขา Annapurna กับ หุบเขา Langtang ที่ไร้ซึ่งระบบโครงสร้างพื้นฐาน และห่างไกลความเจริญ ความจำกัดของพื้นที่ ทำให้การเข้าถึง สำหรับคนทั่วไปนั้น เป็นไปได้ลำบาก ด้วยเหตุนี้เอง Manaslu จึงเป็นดินแดนที่ปลอด “นักท่องเที่ยว” จะมีก็แต่เพียงเหล่า trekker (นักเดินป่าปีนเขา) ขาลุยที่พร้อมด้วยอุปกรณ์และเสบียงอาหารสำหรับการเดินทางไกลเท่านั้น

เส้นทาง Manaslu Circuit นี้มีบางคนเรียกว่า “เส้นทางโรงน้ำชาแห่งเนปาล” (Nepalese teahouse trek) เนื่องจากระหว่างทางจะมีโรงน้ำชาให้แวะพักดื่มชาอุ่นๆได้ตลอดเส้นทาง และนี่คือประสบการณ์ 15 ข้อของ Nat Wilkins นักเดินทางที่ได้ไปสัมผัสประสบการณ์บนเส้นทางนี้มาแล้ว

1. ชาเนย
อาจฟังดูประหลาด แต่ที่จริงแล้วมีรสชาติอร่อยทีเดียว การนั่งอยู่รอบเตาไฟแบบธิเบต ในที่ที่อุณหภูมิภายนอกบ้านติดลบต่ำถึง -10 องศาเซลเซียส แล้วได้กลืนชาอุ่นๆซักถ้วยสองถ้วย ที่ผสมด้วยเนยและเกลือ จะทำให้รู้สึกดีมากๆButter Tea - Nepal

2. ท้องฟ้ายามค่ำคืน
ความงามยามค่ำคืนของดินแดนแถบนี้ ไร้ซึ่งแสงสว่างจากไฟฟ้ามาเป็นมลภาวะทางสายตา ที่ราบสูงหิมาลัยแห่งนี้ มีทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่น่าตื่นตา เมื่อแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าก็จะสามารถมองเห็นทางช้างเผือกทอดตัวยาวอยู่เหนือ Hani gate แห่งหมู่บ้าน SmagaonDark Skies -Nepal

3. ถนนหนทาง
ที่จริงแล้ว จะเรียกว่าถนนก็ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะถึงแม้ว่าคุณจะเป็นผู้โดยสารที่จ่ายค่าโดยสารมาเต็มราคา แต่คุณอาจต้องมี “หน้าที่” ที่จะต้องลงจากรถมาช่วยกันเข็นช่วยกันผลักรถ ในยามที่ “ถนน” ที่คุณกำลังเดินทางนั้น ไม่ได้ทำหน้าที่ของ “ถนน” ซักเท่าไหร่road? what road!

4. ยิ่งสูงยิ่งเงียบ
การตามรอยเส้นทางน้ำของแม่น้ำ Budhi Gandaki ที่ส่งเสียงคำรามสนั่นช่องเขาในช่วง 3 วันแรก จะต้องเดินขึ้นเขาที่ลาดชันเลียบแนวกำแพงผาขึ้นไป ซึ่งระหว่างที่เหล่า trekker ต้องเพ่งสมาธิไปที่การเดินขึ้นไปอย่างมั่นคง ก็จะพบว่าเสียงแม่น้ำที่ดังสนั่นในช่วงแรก จะค่อยๆเงียบหายไปกับความสูงที่เพิ่มขึ้นตามระยะทางManaslu Quieter - Nepal

5. ชิดผาไว้
เมื่ออยู่ในจุดที่สูงจนไม่ได้ยินเสียงแม่น้ำแล้ว นักเดินทางมักจะได้พบกองคาราวานม้าร่วมทางอยู่ ซึ่งบนเส้นทางที่แคบ หากคุณเดินอยู่ผิดฝั่ง ไปอยู่ฝั่งริมผาแล้ว เกิดมีการกระทบกระแทกกันขึ้นแม้แต่นิดเดียว ก็อาจเกิดอันตรายขึ้นได้ ดังนั้นในกรณีแบบนี้ ควรเดินชิดติดฝั่งกำแพงผา(ติดภูเขา)เอาไว้ เพื่อความปลอดภัยPersonal Space

6. ความงามทางธรรมชาติ
ถึงแม้เส้นทางจะยาวไกลและยากลำบาก แต่ทัศนียภาพที่งดงามของช่องเขาแห่งนี้ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่มุม กี่โค้ง ก็มีทิวทัศน์ที่สวยงามตระการตาให้เหล่านักเดินทางได้ตะลึงพรึงเพริดกับธรรมชาติได้อย่างไม่รู้เบื่อEpic Vistas

7. กล้องส่องทางไกลคือของเล่นสุดฮิต
เด็กๆตามหมู่บ้านห่างไกล มักจะร้องขอสิ่งของต่างๆจากนักเดินทาง ปากกาบ้าง ช็อคโกแลตบ้าง ซึ่งการให้ของเด็กๆเหล่านี้ บางคร้ังจะยิ่งกระตุ้นให้พวกเขายิ่งอยากได้ของอื่นเพิ่มอีก และเมื่อได้สิ่งที่ต้องการ พวกเด็กๆก็จะวิ่งทิ้งเราไปด้วยความยินดีกับสมบัติชิ้นใหม่ สิ่งที่น่าสังเกตอย่างหนึ่งคือ พวกเด็กๆมักจะชื่นชอบกล้องส่องทางไกล และเล่นมันด้วยความประหลาดใจกับภาพที่เห็นผ่านท่อเลนส์ แต่ที่น่าสนใจคือ เด็กๆมักจะชอบใช้กล้องส่องทางไกลผิดด้านเสมอMountain Child Discovers Binoculars

8. การจราจรติดขัด
ธันวาคม คือ เดือนที่ถือเป็นช่วง “ชั่วโมงเร่งด่วน” สำหรับพื้นที่เกษตรกรรมในดินแดนหิมาลัย นักเดินทางจะได้ร่วมใช้เส้นทางกับคนเลี้ยงแกะที่กำลังเคลื่อนฝูงแกะลงสู่ทุ่งหญ้าในพื้นที่ที่ต่ำกว่า เนื่องจากสภาพอากาศของฤดูหนาวที่หนาวเย็นขึ้นTrafic

9. สุสานต้นไม้ (ที่นักเดินทางมีส่วนต้องรับผิดชอบ)
ความจริงอันโหดร้ายที่เหล่านักเดินทางจะได้เรียนรู้จากการเดินทางครั้งนี้ คือ การมาถึงนักเดินทาง ได้ก่อให้เกิดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมต่อดินแดนแถบนี้ ผืนป่าบริเวณดินแดนรอบนอกของหมู่บ้าน Lao โดนตัดทำลายไปเมื่อ 30 ปีก่อน และไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นฟูขึ้นมาเลย ไม้ที่ใช่สร้างโรงน้ำชาทุกแห่ง และ ฟืนทุกชิ้นที่ให้ความอบอุ่นเหล่านักเดินทาง ถูกตัดจากต้นไม้ในป่าแถบนี้ทั้งสิ้น

ที่ตลกร้ายก็คือ พวกเราเดินทางมาเพื่อชมทัศนียภาพที่สวยงามของธรรมชาติ ที่ถูกทำลายลงไปเพื่อต้อนรับพวกเรานั้นเองTrees

10. เด็กไร้ชื่อ
อีกหนึ่งความจริงที่น่าเศร้าของที่นี่ คืออัตราการเสียชีวิตของเด็กนั้นสูงมากในพื้นที่ห่างไกลของหุบเขา Nubri ซึ่งทำให้ครอบครัวที่นี่ ไม่ตั้งชื่อให้ลูกๆของพวกเขา จนกว่าจะมีอายุครบ 5 ปี เนื่องจากเด็กๆที่นี่อายุสั้นกันมาก 20% ของทารกที่นี่มีอายุไม่เกินขวบแรก ส่วนเด็กเล็กก็มักเสียชีวิตจากการติดเชื้อจากบาดแผลที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุทั่วไปเท่านั้น

ดินแดนแถบนี้ขาดแคลนยารักษาโรค และ น้ำสะอาด ตลอดจนการขาดความรู้ด้านสุขอนามัยที่ถูกต้อง (การขับถ่ายของผู้คนในหมู่บ้านยังเป็นแบบเปิด) ทำให้เต็มไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บมากมาย เมื่อ 2 ปีก่อนโรคอหิวาตกโรคได้คร่าชีวิตประชากรหมู่บ้านนี้ไปกว่าครึ่งหนึ่งทีเดียวKid

11. ความหวังจากโลกภายนอก
ถึงแม้ชีวิตของคนที่นี่จะแร้นแค้น แต่จำนวนผู้เดินทางสู่ Manaslu Circuit ที่เพิ่มมากขึ้น อาจมีส่วนช่วยในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับผู้คนที่อาศัยอยู่ในดินแดนนี้ นักเดินทางที่มากขึ้น หมายถึงรายได้ที่มากขึ้น และบางทีอาจนำมาซึ่งการพัฒนาในด้านสาธารณสุขในพื้นที่ (เพราะนักเดินทางเอง ก็ต้องการที่จะมีสุขอนามัยในการเดินทางที่ดี ซึ่งอาจเป็นผลพลอยได้ต่อชุมชนไปในตัว)Water Millers

12. Hani gate ประตูสู่บ้าน
Hani gate หรือ ประตูฮานิในภาพนี้ ตั้งอยู่นอกหมู่บ้าน Sho ซึ่งถือเป็นเครื่องบอกตำแหน่ง ให้กับขาที่อ่อนล้าจากการเดินมาทั้งวัน ว่าที่พักนั่นอยู่อีกไม่ไกลแล้วHani Gate and Himal Ganesh range

13. อากาศเบาบาง
การเดินทางจาก Samdo มุ่งไป Larke La Pass เพื่อเข้าสู่ Bhimtang ต้องผ่านเส้นทางการปีนขึ้นเขาระดับความสูง 1,000 เมตร และลงเขาอีก 1,000 เมตร ซึ่งต้องเริ่มออกเดินทางตั้งแต่ก่อนแสงแรก จนถึงพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ใช้เวลากว่า 14 ชั่วโมงที่ระดับความสูงกว่า 5,150 เมตร ที่ความสูงระดับนั้น นักเดินทางต้องให้พึงสังเกตร่างกายตัวเองและเพื่อนร่วมทางเป็นพิเศษอยู่เสมอ นักเดินทางไม่ควรดูถูกโรคจากการขึ้นพื้นที่สูง ที่อาจเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันและถึงชีวิตได้Ice

14. กลับสู่ความเจริญ
14 วันบนเส้นทาง Manaslu Circuit นั้นเต็มไปด้วยมนต์ขลังและอาจทำให้คุณรู้สึกเหมือนกับหลุดไปอีกโลกหนึ่ง การมาถึงเมือง Dharapani จะปลุกนักเดินทางให้ตื่นขึ้นด้วยฝุ่นควันและเสียงแตรจากรถ 4×4 ที่จะพาเหล่า trekker กลับสู่ความเจริญอีกครั้งBack to Reality (fueling station)

15. จงเป็นส่วนหนึ่งของทางแก้
เส้นทาง Manaslu Cercuit จะทำให้นักเดินทางได้สัมผัสและรับรู้ถึงปัญหาความอดอยากและปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่จริงในดินแดนแถบนี้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เหล่า trekker ทั้งหลายควรตระหนัก คือความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและคนในพื้นที่ ด้วยจิตสำนึกที่ต้องการช่วยเหลือและบรรเทาสถานการณ์Manaslu

Source: Matador Network

2 Comments

  • Ping

    อ่านแล้วเพิ่มความอยากให้กลับไปเที่ยวอีกเลยคะ

    เนปาลเป็นประเทศที่แนะนำอยากให้คนลองไปเที่ยว ลองเดิน trekking ดูมีเส้นทางพื้นฐานสำหรับมือใหม่หรือคนที่ไม่เคยเดินมาก่อนอยู่เหมือนกัน ที่สำคัญสวยมาก และสำคัญกว่าคือ สู้กับความเหนื่อยและใจเราเองสำหรับคนที่ไม่เคย trekking มาก่อน 🙂

    เส้นทางโรงน้ำชาดูน่าสนใจ แต่ถ้าจะกลับไปเดิน 14 วันต้องขอเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนคะ แค่ 4 วันยังสุด ๆ เลย แต่จะเก็บไว้ใน list คะ

  • LeSucre

    ขอบคุณความรู้และความน่าสนใจที่เอามาแบ่งปันคะ ^ ^

Comments are closed.

Magazine made for you.