Autumn in Germany เยอรมนี 4 ฤดู ตอนที่2 : ฤดูใบไม้ร่วง
ถ้าถามคนเยอรมัน ส่วนมากมักจะบอกว่า ชอบฤดูใบไม้ผลิเป็นฤดูโปรดของพวกเขา แต่ถ้าถามฉัน ยัง ไงๆ ก็ต้องฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น เพราะช่วงนี้อากาศกำลังเย็นสบาย ไม่ร้อนเกินหรือหนาวไป กลางวัน ยาวกำลังดี พระอาทิตย์ตกไม่ดึกเกิน ใครอยากถ่ายรูปแสงสุดท้าย ไม่ต้องรอจนสี่ห้าทุ่มเหมือนช่วงหน้าร้อน
ประจวบเหมาะกับที่ฉันได้ย้ายมาอยู่เมือง Fürth ในรัฐ Bayern (Bavaria) ทางตอนใต้ของ Germany ซึ่งอยู่ติดกับเมืองเก่าชื่อ ดังอย่าง Nürnberg (Nuremberg) แถมยังไม่ไกลจากเมืองสวยๆ หลายแห่ง ทั้ง Bamberg, Rothenburg หรือ Regensburg อีกด้วย
แค่ตัวเมืองก็สวยอยู่แล้ว ยิ่งเจอสีสันของใบไม้มาแต่งแต้มเข้าไปอีก ยิ่งทำให้ Nürnberg งดงามขึ้นเป็นกอง วันไหนอากาศดีๆ ต้องรีบแจ้นเข้าเมืองไปเดินเล่นถ่ายรูปเลยทีเดียว เพราะช่วงนี้แสงแดดเริ่มขาดแคลน ยิ่งตอนปลายๆฤดู วันไหนแดดออก คนที่นี่จะต้องออกมานั่งรับแดดเป็นเนื้อแดดเดียวกันเลยล่ะ อยู่ไปสักพัก ฉันเองก็ติดนิสัยคนเยอรมันมาบ้างเหมือนกัน พอเห็นแดดออกเป็นไม่ได้ ต้องหาเรื่องออกไปเที่ยวอยู่เรื่อย
อย่างสุดสัปดาห์ที่ฉันได้ไปเที่ยว Bamberg มา เป็นการไปแบบมึนๆ เพราะแค่เห็นพยากรณ์อากาศว่าแดดจะออก ก็ตัดสินใจไปเลยแบบไม่คิดอะไรมาก Bamberg เป็นเมืองโปรดของฉัน เมืองเล็กๆที่มีแม่น้ำสายน้อยไหลผ่าน และมีปราสาทอยู่บนเขา เป็นครั้งแรกที่ไปเมืองนี้แล้วฝนไม่ตก เลยตั้งใจไว้เต็มที่ว่าจะขึ้นไปชมปราสาทนี้ให้ได้

แต่เพราะไม่ยอมเตรียมตัว พอไปถึง จึงรู้ว่ามันไม่มีรถบัสสาธารณะขับขึ้นไปเลย ถ้าไม่ซื้อตั๋ว hop-on hop-off bus ก็ต้องเดินขึ้นไปอย่างเดียว ตอนที่ฉันไปถาม ตั๋วบัสแบบนั้นขายหมดไปแล้ว ฉันเลยมีทางเลือกแค่ทางเดียว คือ เดินขึ้นเขาซะ
ด้วยระยะทางเกือบ 4 กิโลเมตร ซึ่ง 2 กิโลสุดท้ายคือการเดินขึ้นเขาตัดทุ่งหญ้า ฉันเดินคนเดียวเปลี่ยวมาก แต่เวลามีคนเดินสวนทางมานี่ตกใจกว่าเดิม พอเดินไปได้ประมาณครึ่งทาง มองกลับลงมาเห็นเมือง Bamberg แบบพานอรามาในแสงแดดอ่อนๆ ก็บอกกับตัวเองว่า มาถึงแค่นี้ก็คุ้มแล้วล่ะ!
ฮึดสู้ขึ้นไปจนถึงปราสาท ด้านบนบรรยากาศดีมากๆ พระอาทิตย์ใกล้ตกพอดี แสงเป็นสีทองสวย เสียตรงที่ไปคนเดียวเนี่ยแหละ เลยได้แต่ยืนหมั่นไส้คู่รักที่กำลังนั่งชมพระอาทิตย์ตกบนกำแพงปราสาทแทน
ส่วนขากลับไม่ได้เดินลงแล้วนะ ขอติดรถคนแถวนั้นลงมา เร็วกว่าเยอะ แหะๆ ระหว่างอยู่บนรถก็ชวนเจ้าของรถชาว Bamberg คุยไปเรื่อยเปื่อย ได้การว่าสถานที่โปรดในเมืองของ พวกเขาคือโบสถ์ Michaelsberg’s Abbey แถมคุณลุงกับคุณป้ายังใจดี พาฉันมาส่งถึงโบสถ์ดังกล่าว (หรือที่พวกเขาทั้งสองเรียกซะน่ารักว่า Michi) และเดินไปชี้ทางกลับเข้าเมืองให้ด้วยตัวเองอีกด้วย น้ำใจที่คนแปลกหน้าหยิบยื่นมาให้ มักจะทำให้ฉันประทับใจอยู่เสมอ
สิ่งที่ทำให้ฉันชอบฤดูใบไม้ร่วงอีกอย่าง คงหนีไม่พ้นเรื่องของกิน เพราะช่วงนี้ยังมีผักผลไม้ให้กินเยอะไม่แพ้ฤดูร้อน ทั้งฟักทองหลากหลายรูปทรง (ที่ได้เอามาแกะสลักวันฮัลโลวีนด้วย) แบล็คเบอร์รี่ แอปเปิ้ล และ ลูกพลัม

โดยเฉพาะเจ้าลูกพลัมเนี่ยแหละ ของโปรดเลย กินสดๆ ก็อร่อย ยิ่งเอามาทำเป็นทาร์ตลูกพลัม กินตอนที่เพิ่งอบเสร็จใหม่ๆกับน้ำชายามบ่าย อืมมม…อร่อยลืมอ้วนเลย
ไปเก็บลูกพลัมสดๆ มาจากสวน หั่นลูกพลัมเป็น 4 ส่วนแล้วเรียงสวยๆบนแป้งที่เตรียมไว้ เตรียมแป้งโดว์ มีแบบโยเกิร์ตนุ่มๆ หรือยีสต์รอบๆ โรยน้ำตาล อบเชยป่น และอัลมอนด์สไลด์ก่อนเข้าอบ
จบเรื่องของกิน ก็มาต่อกันที่เครื่องดื่ม (ชีวิตฉันวนเวียนอยู่แต่สองเรื่องนี่แหละ) ช่วงนี้จะไม่พูดถึงเทศกาลเบียร์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Oktoberfest คงไม่ได้ และแน่นอนว่าฉันไม่พลาด ขอไปเยี่ยมชมแป๊บๆก็ยังดี ถ้าไม่ได้จองโต๊ะในเต็นท์เบียร์ไว้ หรือตั้งใจจะไปเข้าแถวรอตั้งแต่เช้า งานมันก็จะคล้ายๆเทศกาลประจำฤดูทั่วๆ ไปที่มีเครื่องเล่น ชิงช้าสวรรค์และของกินแพงๆ เบียร์ยี่ห้อที่มางานนี้ก็ไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ (โอเค Augustiner ก็อร่อยดี แต่พวก Paulaner หรือ Hofbraeuhaus ที่ดังๆ นั่นไม่อร่อยเลยสักนิด) ถ้าอยากกินเบียร์อร่อยๆ แนะนำให้ไปแถบ Franconia (คือรัฐ Bavaria ตอนบนสุด แถวๆเมือง Nuremberg/Bamberg/Bayreuth/Kronach) ที่มีโรงหมักเบียร์เล็กๆนับร้อยให้เลือกชิมกันได้ไม่ซ้ำวันเลยทีเดียว

ที่ฉันชอบมากกว่า Oktoberfest คือเทศกาล Kirchweih ที่จริงมันเป็นวันสำคัญทางศาสนาคริสต์ แต่จัดงานแฟร์ซะใหญ่โตติดต่อกันหลายวันเลยทีเดียว ในรัฐ Bavaria เทศกาลนี้จะจัดขึ้นในช่วงเดือนตุลาคม ลักษณะงานก็คล้ายๆ Oktoberfest นั่นแหละ แต่จะเล็กและเป็นกันเองมากกว่า ไม่ได้มีแต่นักท่องเที่ยวแบบงานใหญ่ในมิวนิค

ของโปรดประจำงานนี้ของฉันต้องเจ้านี่เลย Federweisser
Federweisser (เฟเดอร์ไวเซอร์) คือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่หมักจากองุ่น มันคือไวน์ที่เพิ่งเริ่มหมักไปได้ไม่นานนั่นเอง เนื่องจากใช้เวลาหมักน้อยกว่าไวน์มาก เลยจะมีรสหวานนำ กินง่ายเหมือนน้ำหวานน้ำผลไม้เนี่ยแหละ แต่เผลอกินมากไปก็เมาได้เหมือนกันนะ เพราะมีแอลกอฮอล์ตั้ง 4 เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้ ต่างจากเบียร์เท่าไหร่เลย
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์รสหวานถูกใจสาวๆแบบนี้ มีเฉพาะช่วงเดือนกันยา-ตุลาเท่านั้น คนที่นี่นิยมกินคู่กับทาร์ตหัวหอม (Zwiebelkuchen) คล้ายๆ พิซซ่า แต่ใช้แป้งทาร์ตแทน แล้วเอาซาวครีมมากเป็นซอส ตัดรสหวานจาก Federweisser ได้อย่างลงตัว ใครมาเที่ยวช่วงนี้ ก็อย่ามัวแต่กินเบียร์เพลินล่ะ ลองชิม Federweisser ดูสักแก้ว (หรือขวดนึงไปเลย) เพราะของแบบนี้มีปีละหนเท่านั้น
อย่างที่บอกไปว่าช่วงนี้ต้องรีบเก็บเกี่ยววิตามินดีเอาไว้เยอะๆ ก่อนที่หน้าหนาวจะมาเยือน ฤดูใบไม้ร่วงช่วงไหนอากาศดีๆนี่เหมาะกับการขึ้นเขาเดินป่ามาก เพราะถ้าแดดออกจะกำลังเย็นสบาย ไม่ร้อนเกินเหมือนช่วงฤดูร้อน โดยทางตอนใต้ของรัฐบาวาเรียที่ติดกับประเทศออสเตรีย จะเป็นเทือกเขาที่เต็มไปด้วยเส้นทางเดิน ครอบครัวที่ฉันไปอยู่ด้วยมีบ้านพักตากอาหาศอยู่ในหมูบ้านเล็กๆกลางหุบเขาที่ชื่อว่า Unterjoch เราจึงไปพักร้อนเดินเขากันในช่วงสุดสัปดาห์
การมาที่ Unterjoch มันคือการกลับไปอยู่กับธรรมชาติ และได้ชาร์จพลังให้ตัวเองสุดๆ เพราะหมู่บ้านนี้ชนบท (บ้านนอก) มาก แถมอาหารการกินยังดีเลิศ โดยเฉพาะชีสของที่นี่อร่อยมาก เพราะทำมาจากนมของวัวที่ถูกปล่อยให้เดินเล่นบนเขาตลอดช่วงฤดูร้อน และเพิ่งจะถูกต้อนกลับลงมาเข้าคอกเมื่อไม่กี่วันมานี้ เดินลงเขามาเหนื่อยๆ แล้วไปว่ายน้ำแช่จากุชชี่ ก่อนมากินมื้อเย็น 3-course แบบจัดเต็ม นี่แหละคือการพักผ่อน เติมพลังของฉัน (และคนเยอรมันอีกหลายครอบครัว) ก่อนจะเขาถึงช่วงจำศีลในฤดูหนาวนั่นเอง

ย้อนกลับไปอ่านตอนก่อนหน้าได้ที่นี่ Summer in Germany เยอรมนี 4 ฤดู ตอนที่1 : ฤดูร้อน