Bompas & Parr คู่หูนักจัดปาร์ตี้เล่นสนุกกับอาหารบุกกรุงเทพฯ

คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับอีเวนท์หลุดโลกเหล่านี้บ้างไหม ?

ป็อบอัพบาร์ที่คุณสามารถหายใจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าร่างทางอากาศได้เป็นครั้งแรกของโลก, อีเวนท์ที่สร้างหน้าผาจำลองจากช็อกโกแลตที่เปิดให้คนขึ้นไปปีนได้จริงครั้งแรกของโลก, การจุดดอกไม้ไฟที่มาครบ รูป รส กลิ่น เสียง ในงานเคาท์ดาวน์ใหญ่ London New Year’s Eve หรือจะเป็นห้องเทสต์รสชาติเบียร์แบบหลากประสาทสัมผัสที่ Guinness Store House เมืองดับลินที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสถานที่จิบเบียร์ Guinness ที่ดีที่สุดในโลก

อีเวนท์สุดสร้างสรรค์ที่มีแต่คำว่า ‘ที่สุดในโลก’พ่วงท้ายเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของงานหลุดโลกอีกมากมายซึ่งเป็นฝีมือของ Bompas & Parr คู่หูนักสร้างสรรค์ชื่อดังแห่งลอนดอนที่จะมาบุกกรุงเทพฯ ครีเอทอีเวนท์เจ๋งๆ ให้คนไทยได้สัมผัสกัน

เริ่มต้นจากความหลงใหลในเยลลี่ พวกเขาสร้างชื่อจากการสร้างสถาปัตยกรรมด้วยเยลลี่จนโด่งดังด้วยการเอาอาหารมาเล่นสนุก สร้างสรรค์ประสบการณ์หลุดโลกผ่านงานศิลปะและอีเวนท์มากมาย ความบ้าของพวกเขามีตั้งแต่การติดต่อนอร์แมน ฟอสเตอร์ สถาปนิกระดับโลกชาวอังกฤษเพื่อให้เขาช่วยทำ ‘พิมพ์เยลลี่’ ให้ ไปจนเอาลาวาจากภูเขาไฟมาทำอาหาร เปลี่ยนสีแม่น้ำให้กลายเป็นเขียวมรกต รวมถึงเปลี่ยนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นไอระเหยให้คนได้สังสรรค์กันผ่านการหายใจ

การมาไทยของ Sam Bompas และ Harry Parr ในครั้งนี้ ก็เพื่อจัดโปรเจ็คสร้างสรรค์ล่าสุดของพวกเขา KHUN’s DNA Exploratorium by Bompas & Parr ที่จะเกิดขึ้นที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 25-26 กุมภาพันธ์ 2017 นี้ บริเวณชั้น M ของ ดิ เอ็มควอเทียร์ งานอีเวนท์สุดครีเอทนี้สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อการเปิดตัวโครงการ KHUN by YOO inspired by Starck โดยเฉพาะ ซึ่งนี่คือที่พักอาศัยรูปแบบใหม่ของแสนสิริที่ได้บริษัทดีไซน์ระดับโลกอย่าง YOO มาร่วมออกแบบ โดยสตูดิโอแห่งนี้เป็นการร่วมกันก่อตั้งระหว่าง John Hitchcox และดีไซน์เนอร์ฝีมือเจ๋งสุดล้ำของโลกอย่าง Philippe Starck ที่ทั่วโลกรู้จักกันดีนั่นเอง

มาดู DNA ความเจ๋งที่สองนักคิดชื่อดังสร้างสรรค์ให้กับงาน KHUN’s DNA Exploratorium by Bompas & Parr กันบ้าง ภายในอีเวนท์สุดครีเอทีฟนี้จะแบ่งออกเป็น 4 โซนที่อยู่ในห้องทรงกล่องสีทองแดงโดดเด่น หยิบเอาแรงบันดาลใจมาจากวัสดุหลักอย่างทองแดงที่ใช้ตกแต่งออกแบบโครงการ KHUN by YOO inspired by Starck ให้มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร โดยการออกแบบนี้มาในแนว Industrial Heritage ที่ใส่ใจการออกแบบตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ไปจนถึงสถาปัตยกรรม

ความเจ๋งโซนแรกที่จะได้สัมผัสกันก็คือ KHUN’s Jelly Kaleidoscope ที่ใช้เทคนิคของกล้องคาไลโดสโคปขนาดยักษ์ที่มาพร้อมเอกลักษณ์กระจกหกเหลี่ยมสะท้อนเงาไปมาให้เกิดภาพสมมาตรอัศจรรย์ขึ้น เทคนิคนี้จะนำมาเล่นกับเจลลี่หลากสีสันนับล้านชิ้นที่จะสร้างความตื่นตาตื่นใจสุดพิเศษให้กับคนที่เข้ามาสัมผัส ซึ่งเจลลี่นี้ถือเป็น Signature เอกลักษณ์สำคัญของงานอาร์ตอีเวนท์ต่างๆ ที่เป็นเสมือนลายมือการสร้างสรรค์ของ Bompas & Parr เลยทีเดียว

โซนที่สองก็คือ Petri Personality Workshop ที่จะเชิญให้ทุกคนมาร่วมสร้างสรรค์งานศิลปะจาก DNA ของตัวเอง โดยจะได้รับไอเทมที่เมื่อคุณหยดสารละลายพิเศษแล้วจะทำให้เกิดเป็นงานศิลปะน่าทึ่งตามสไตล์แต่ละคนเพื่อสะท้อน DNA ของตน เหมือนการสร้างงานศิลป์ในห้องทดลองวิทยาศาสตร์

โซนที่สามคือ Microbium Gallery การจัดแสดงผลงานศิลปะที่ชื่อว่า DNA Wall เพื่อสะท้อนออกมาจาก DNA ของเหล่าเซเลบริตี้ตลอดจนเทรนด์เซ็ตเตอร์ของไทย

โซนที่สี่ก็คือ Wellness Elixir Bar บาร์เครื่องดื่มที่จะให้เราได้สัมผัสประสบการณ์พิเศษที่ไม่เหมือนใครโดยเราจะได้รับกระดาษชนิดพิเศษเพื่อนำไปวางไว้บนลิ้นของเราสำหรับทดสอบการรับรู้รสชาติ จากนั้น Mixologist ก็จะวิเคราะห์และจัดเครื่องดื่มที่ตรงกับเคมีของแต่ละคนให้ได้สัมผัสกัน

Bompas & Parr เป็น Creative Studio ในลอนดอนที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2007 โดย Sam Bompas และ Harry Parr มี DNA อันเป็นเอกลักษณ์ของสตูดิโอก็คือการสร้างสรรค์อีเวนท์หรือโปรเจ็คอาร์ตๆ ที่เกี่ยวกับการสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ด้านรส กลิ่น ไปจนถึงการเล่นกับหลากประสาทสัมผัสร่วมกัน นับจากก่อตั้งมาจนถึงปัจจุบัน Bompas & Parr นั้นสร้างสรรค์อีเวนท์ดังระดับโลกขึ้นมามากมาย แต่อัตลักษณ์สำคัญอีกอย่างของ Bompas & Parr ก็คือการทำเจลลี่แล้วนำไปผสานกับการนำเสนอในรูปแบบต่างๆ ซึ่งนอกจากเจลลี่จะถือเป็นสิ่งที่เขาใช้นำเสนอในผลงานชิ้นแรกสุดของสตูดิโอแห่งนี้แล้วมันก็กลายมาเป็นสิ่งที่เป็นเสมือนลายเซนต์ของงาน Bompas & Parr เลยก็ว่าได้

ติดตามผลงานครีเอทหลากหลายรูปแบบของพวกเขาได้ที่ bompasandparr.com หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของอีเวนท์สุดสร้างสรรค์ระดับโลกที่จะเกิดขึ้นที่เมืองไทยเร็วๆ นี้ได้ที่ www.sansiri.com/condominium/khunbyyoo/th

นักเดินทางที่เป็นทั้งนักเขียนและช่างภาพในตัว เขียนงานให้กับสื่อต่างๆ ในเมืองไทยมากมายตั้งแต่สารคดีหนักๆ, บทสัมภาษณ์, ไปจนถึงเรื่องดีไซน์และแฟชั่น แต่ผลงานที่โดดเด่นเห็นจะเป็นบทความด้าน Food & Travel ที่เขียนถึงทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่เขาหลงรักอย่างญี่ปุ่น

Magazine made for you.