“พระโขนง” จากเสน่ห์วันวานสู่ย่านศิลป์ร่วมสมัย
ในขณะที่ย่านฮิปอย่าง ทองหล่อ และ เอกมัย นั้นเต็มไปด้วยร้านรวง ที่สร้างบรรยากาศไว้แสนศิวิไลซ์ ราวกับเป็นประตูมิติ ที่สามารถพาเราวาร์ปหนีความจำเจ ไปอยู่ที่เก๋ๆ เหมือนได้แฮงเอาท์อยู่ต่างประเทศ แต่ถัดมาเพียง 1 สถานีรถไฟฟ้า มีอีกหนึ่งย่านใกล้เคียงกันที่น่าสนใจอย่าง “พระโขนง” ที่ยังคงเสน่ห์ท้องถิ่นแบบไทยย้อนยุคของย่านเอาไว้แบบไม่ตามกระแส แต่ในขณะเดียวกันก็กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดสู่ยุคใหม่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
พระโขนง คือ ย่านเก่าก่อนที่มีอยู่มานาน นานจนใครก็ต้องรู้จัก หรืออย่างน้อยก็ต้องเคยได้ยินชื่อ ผ่านหนังผีอมตะอย่าง “แม่นาคพระโขนง” ในอดีตย้อนกลับไปซัก 40 ปีก่อน ย่านนี้เคยเป็นแหล่งการค้าที่รุ่งเรือง มีห้างสรรพสินค้าใหญ่อย่างอาเชี่ยน และ ไทยไดมารู มีโรงภาพยนตร์ชื่อดังถึง 6 แห่งในย่านเดียว อย่าง พระโขนงเธียร์เตอร์ (บางข้อมูลระบุว่าเป็นโรงหนังที่เคยใหญ่ที่สุดในเอซีย จุคนได้ถึง 2,000-3,000 ที่นั่ง), พระโขนงรามา, โรงหนังเอเชีย, เจ้าพระยาเธียเตอร์, ฮอลิเดย์ และ ลอนดอน เป็นแหล่งรวมความบันเทิงย่านชานเมืองฝั่งตะวันออก ที่ใครอยู่แถบนี้ต้องแวะมาเดินเที่ยวกันทั้งนั้น ถึงแม้เมื่อเวลาผ่านไปย่านพระโขนงจะซบเซาลง ทิ้งไว้แค่กลิ่นอายจางๆของความเฟื่องฟูในอดีต แต่หากใครมีโอกาสได้ลองเข้าไปเดินสำรวจ ก็จะพบว่าบรรยากาศย้อนยุคของย่านนี้มีความขลังที่น่าหลงใหลอย่างประหลาด
เสน่ห์ของย่านพระโขนง คือบรรยากาศของความเป็นชุมชนที่ยังคงความไทยในแบบวิถีชาวบ้าน ซึ่งถึงแม้ไม่เก๋เท่าย่านข้างเคียง แต่ก็เต็มไปด้วยชีวิตชีวา พ่อค้าแม่ขายตลอดจนคนที่เดินจับจ่ายส่วนใหญ่เป็นคนในท้องที่ ไม่ใช่ขาจรที่แวะมากินดื่มเที่ยวแล้วจากไป อีกมุมหนึ่งที่น่าสนใจของพระโขนงในวันนี้นั้น คือความหลากหลายทางเชื้อชาติ เราสามารถพบฝรั่งจับกลุ่มนั่งจิบเบียร์หลังเลิกงานกันอยู่ในลานอาหารที่รายล้อมด้วยสตรีทอาร์ตตามกำแพงตึก หรือพบชาวญี่ปุ่น เกาหลี เปิดร้านอาหารบรรยากาศกันเองอยู่ตามตรอกซอกซอยที่จะเริ่มคึกคักขึ้นมาช่วงหลังเวลาเลิกงาน
กลุ่มชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวตะวันตกย้ายเข้ามาอาศัยที่ย่านพระโขนงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และใช้ชีวิตผสมกลมกลืนกับท้องถิ่นได้อย่างไม่แปลกแยก ถ้าจะมีที่ไหนที่เราสามารถเห็นภาพฝรั่งเดินหาซื้อผลไม้ในตลาด หรือขี่มอเตอร์ไซค์ตีคู่มากับคนขับวินกันได้เป็นปรกติ ก็คงจะต้องเป็นที่พระโขนงนี่แหละ ผู้คนในย่านนี้มีวิถีชีวิตเรียบง่าย ผู้มาอยู่ใหม่ก็ดูจะได้รับอิทธิพลจากวิถีนี้ พลอยมีชีวิตแบบสบายๆติดดินไปด้วย
ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา พระโขนงเริ่มมีความเปลี่ยนแปลง กลายเป็นย่านศิลปะแห่งใหม่ ที่มีทั้งแกลอรีศิลปะ โรงแรมศิลปะ คาเฟ่ที่แสดงงานศิลปะ อย่าง GOJA Gallery Cafe ที่มีผู้ก่อตั้งเป็นชาวญี่ปุ่น และได้ดึงเอาศิลปินญี่ปุ่นมาแสดงผลงานในบ้านเรา หรือ HOF Art Space ที่นำเสนอนิทรรศการและกิจกรรมศิลปะดีๆอย่างต่อเนื่อง ก็ได้กลายเป็นสีสันใหม่ๆให้กับย่านพระโขนง หากลองเปรียบเทียบดูแล้ว ย่านชุมชนคนศิลป์ในประเทศต่างๆในโลก มักมีความคล้ายคลึงกัน คือเป็นย่านที่ค่าเช่าถูก มองภายนอกอาจไม่งามตานัก ผู้คนปากกัดตีนถีบ ใช้ชีวิตแบบไม่ประดิษฐ์ และให้ความสำคัญกับ “ทัศนคติ” ซึ่งอาจจะเป็นมุมที่สำคัญที่สุดของการใช้ชีวิต มากกว่าความงามปรุงแต่งที่ถูกฉาบไว้เพียงภายนอก
Photography by notjustnut, Isara Uthaichalanond
7 Comments
-
Klongkitjakan
คือดีมากๆๆๆๆ
-
Kanjana
ขอบคุณมากค่ะ อ่านจากโพสต์นี้ เมื่อวานเลยแวะๆไปเดินสำรวจ สนุกมาก วัฒนธรรมหลากหลาย วันนี้จะไปอีกค่ะ จะไปถ่ายรูป
-
สุชล
ดีมากๆค่ะรูปก็สวย..
-
Benz
ชอบงานถ่ายภาพเเละการถ่ายทอดสถานที่ต่างๆของพระโขนงมากครับ
คุณมองเห็นความมีสเน่ห์ของพระโขนงได้ดีมากๆเลยครับ
เยี่ยม -
sumalee phengrat
คิดถึงสมัยก่อน 25ปี ที่แล้วเจริญมากค่ะ
Comments are closed.
loongtom
กำลังคิดเหมือนกันว่าจะมีใครถ่ายรูปชีวิตเมืองของบ้านเราให้ดูธรรมชาติ ๆ บ้าน ๆ ไม่ประดิษฐ์ แต่ออกมาเก๋ ๆ เหมือนภาพถ่ายของเมืองอื่น ๆ ทั่วโลกบ้างมั๊ย
พึ่งเข้ามาเจอ Blog นี้ ขอบคุณผู้จัดทำ Blog นี้มากนะครับที่ถ่ายทอดภาพเมืองของเราได้สวยเป็นธรรมชาติดี ไม่ต้องโชว์พาว ทักษะการถ่ายรูปแบบเทพ ๆ แสงแฉก ๆ คมชัดกริบ
ชอบแบบภาพได้อารมณ์ฟิล์มแบบนี้แหละครับ และชอบที่ถ่ายทอดพื้นที่บ้าน ๆ ที่ไม่เป็นที่สนใจ — ส่วนตัวผมก็ชอบพระโขนงมากเพราะนั่งรถเมล์ผ่านทุกวันสมัยเรียนมหาลัย
ดูรู้ว่าครั้งหนึ่งมันเคยเจริญมาก่อน แต่ถูกทอดทิ้งไป กลายเป็นพื้นที่เชย ๆ ไม่น่าสนใจ — แต่ความเชยของมันกลับดูมีเสน่ห์ดี