ด่านเจียยวี่ “กำแพงเมืองจีนฝั่งตะวันตก” บนเส้นทางสายไหม
คงไม่มีใครที่จะไม่รู้จัก “กำแพงหมื่นลี้” หรือ “กำแพงเมืองจีน (Great Wall of China)” หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่สร้างโดยฝีมือมนุษย์ ที่ถึงแม้ความเชื่อที่ว่า “สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าจากดวงจันทร์” จะเป็นเรื่องลวง แต่ความยิ่งใหญ่ของกำแพงอายุกว่า 2,300 ปีแห่งนี้ ถือเป็นของจริงที่ยากจะมีสิ่งไหนเทียบเทียมได้
แต่เดิมกำแพงเมืองจีนเคยถูกบันทึกไว้ว่ายาวถึง 8,850 กิโลเมตร แต่เมื่อปี ค.ศ.2012 ที่ผ่านมาทางการจีนก็ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับผลสำรวจทางประวัติศาสตร์ล่าสุดที่ศึกษาโดยคณะนักโบราณคดีผู้เชี่ยวชาญ ว่าความยาวที่แท้จริงของกำแพงเมืองจีนที่สรุปได้ใหม่นั้นคือ 21,196.18 กิโลเมตร ซึ่งยาวกว่าผลบันทึกเก่ากว่า 2 เท่า เลยทีเดียว ซึ่งนอกจากกำแพงเมืองจีนฝั่งตะวันออกที่นักท่องเที่ยวหลายคนคุ้นตากันดี อีกด้านยังมี “กำแพงเมืองจีนฝั่งตะวันตก” ที่น่าสนใจไม่แพ้กันอีกด้วย
ความยาวหมื่นลี้นั้นครอบคลุมพื้นที่กว่า 15 มณฑล (เทียบตามการแบ่งเขตปกครองในยุคปัจจุบัน) แต่ภาพกำแพงเมืองจีนแสนยิ่งใหญ่ที่ทุกคนคุ้นตากันนั้น มักเป็นแค่ส่วนของกำแพงเมืองจีนที่อยู่ในแถบเมืองหลวงอย่างปักกิ่งเสียมากกว่า
อีกส่วนหนึ่งของกำแพงเมืองจีนที่มีชื่อเสียงไม่แพ้กัน แต่อาจยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากนักก็คือ “ด่านเจียยวี่ (Jiayu Pass/嘉峪關)” กำแพงเมืองจีนฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นที่ตั้งของ “ป้อมปราการเจียยวี่กวน (Jiayuguan Fort)” ตั้งอยู่ในบริเวณแหล่งโบราณสถานเชิงวัฒนธรรมเจียยวี่กวน (Jiayuguan Cultural Relics Scenic Area) เมืองเจียยวี่กวน (Jiayuguan/嘉峪關市) มณฑลกานซู่ (Gansu/甘肃) ประเทศจีน
ความสำคัญของด่านเจียยวี่นี้ก็คือการเป็นจุดปลายสุด (และจุดเริ่มต้น) ของกำแพงเมืองจีนทางฝั่งทิศตะวันตก ที่นี่เป็นปราการด่านสำคัญของการเข้าออกเมืองจีนในยุคก่อนบนเส้นทางสายไหม ซึ่งถือเป็นเส้นทางการค้าที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเส้นหนึ่ง ปราการด่านนี้ยังได้รับการขนานนามว่าเป็น “The First and Greatest Pass under Heaven หรือ ด่านแรกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในใต้หล้า” อีกด้วย
ป้อมปราการและกำแพงเมืองจีนในส่วนเมืองเจียยวี่กวนนี้ถูกสร้างขึ้นราวปี ค.ศ.1372 สมัยราชวงศ์หมิง (ค.ศ.1368-1644) 9 ปีก่อนการสร้างด่านซันไห่ (Shanhai Pass/山海關) ซึ่งเป็นด่านสำคัญทางทิศตะวันออกสุดของกำแพงเมืองจีนที่บรรจบทะเล ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองซันไห่กวน (Shanhaiguan/山海關區) มณฑลเหอเป่ย์ (Hebei/河北)
เอกลักษณ์ของกำแพงเมืองจีนช่วงเจียยวี่กวนนี้ จะแตกต่างจากกำแพงเมืองจีนในแถบปักกิ่งที่มักสร้างด้วยอิฐและหินสีเทาที่แข็งแกร่ง เพราะกำแพงช่วงนี้จะสร้างด้วยอิฐที่ทำจากดินละเอียดสีเหลืองนวล วัสดุหลักที่หาได้ง่ายในท้องถิ่นแถบนี้ซึ่งเอื้อต่อการก่อสร้างที่สุดนั่นเอง แต่ถึงจะเป็นกำแพงดินก็ยังมีความแข็งแกร่งไม่แพ้กัน แถมมีสีกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมโดยรอบซึ่งเป็นทะเลทรายช่วยพรางตาได้ดีเยี่ยมในขณะเดียวกันด้วย ด้วยความที่สร้างอยู่บนพื้นที่ราบไปจนถึงเนินเขาแห้งแล้ง กำแพงในส่วนนี้จึงสร้างไม่สูงนัก ต่างจากกำแพงในแถบปักกิ่งหรือกำแพงที่ทอดตัวยาวตามแนวเขาที่สูงตระหง่านและมั่นคง
ด่านเจียยวี่นั้นตั้งอยู่ในที่ราบหุบเขาแถบทะเลทรายโกบีที่โอบล้อมด้วยขุนเขาสูงตระหง่านที่ปกคลุมด้วยหิมะ บริเวณป้อมปราการเจียยวี่กวนจะแบ่งเป็นพื้นที่เมืองชั้นใน กับพื้นที่ชั้นนอกกำแพง ปัจจุบันอาคารเก่าแก่ทุกหลังต่างถูกอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี เมืองชั้นในโอบล้อมด้วยกำแพงสูงกว่า 10.7 เมตร ยาวกว่า 640 เมตร ตีกรอบล้อมให้เป็นพื้นที่ปิดขนาด 25,000 ตร.ม. นอกจากจะมีอาคารเก่าแก่แล้วปัจจุบันพื้นที่เมืองชั้นในนี้ ยังมีลานแสดงศิลปะการต่อสู้ตลอดจนศิลปะวัฒนธรรมจีนจัดให้ชมกันเป็นประจำ พื้นที่ชั้นนอกกำแพง (ฝั่งใน) ยังเป็นที่ตั้งของวัดกวนยู (Temple of Guanyu), โรงละครจีนโบราณ, พิพิธภัณฑ์กำแพงเมืองจีน, ตลอดจนสิ่งน่าสนใจอีกหลายจุดอยู่รายรอบบริเวณเดียวกันนี้
ตามประวัติศาสตร์กำแพงเมืองจีนเริ่มถูกสร้างขึ้นเมื่อราว 600-700 ปี ก่อนคริสตกาล แต่การกำแพงเมืองจีนที่ยิ่งใหญ่จริงๆ นั้นน่าจะสร้างขึ้นในช่วง 206-220 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งเป็นช่วงที่จีนรวมแผ่นดินเป็นหนึ่งเดียวได้ด้วยฝีมือของจิ๋นซีฮ่องเต้ ผู้ซึ่งสถาปนาราชวงศ์ฉินขึ้นและถือเป็นปฐมจักรพรรดิ์ที่ยิ่งใหญ่ของจีน
กำแพงหมื่นลี้นั้นทอดตัวยาวจากฝั่งตะวันออกสู่ฝั่งตะวันตก วัตถุประสงค์ของการสร้างกำแพงจีนในยุคนั้นก็เพื่อป้องกันการรุกรานจากชาวฮั่น (หรือซวงหนู) ตลอดจนชาวมองโกลและแมนจูเรียที่อยู่ทางตอนเหนือ แต่อีกเหตุผลหนึ่งก็คือการป้องกันขนาบไปกับเส้นทางสายไหม ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าขายที่สำคัญในอดีต และถือว่าเป็นเส้นทางการค้าที่เก่าแก่ที่สุดในโลก นอกจากจะเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกแล้ว กำแพงเมืองจีนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก (UNESCO World Heritage Site) ในปี ค.ศ.1987 ด้วย แถมยังได้รับการจัดอันดับจากองค์การการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน (China National Tourism Administration (CNTA) ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเกรด AAAAA หรือ 5A ซึ่งเป็นการจัดอันดับคุณภาพในระดับสูงสุดอีกด้วย
[su_tabs][su_tab title=”Details”]
Opening Hours:
พฤษภาคม-ตุลาคม 08.30-20.00
พฤศจิกายน-เมษายน 08.30-18.00
Admission:
พฤษภาคม-ตุลาคม CNY 122
พฤศจิกายน-เมษายน CNY 102
Location:
Jiayuguan Cultural Relics Scenic Area
Jiayuguan, Gansu, China
[su_gmap width=”1600″ address=”嘉峪關”][/su_gmap]
[/su_tab]
[/su_tabs]