LAUGAVEGUR TRAIL : ICELAND เดินลุยเดี่ยวในดินแดนเวิ้งว้างแห่งไอซ์แลนด์ part 1
ทริปไอซ์แลนด์กว่าสองอาทิตย์ของผม หลังจากเช่ารถขับ เที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวตามเส้นทาง Ring Road ด้านใต้ของประเทศ และ ไปเที่ยวมิวสิคเฟสติวัล ATP Iceland 2015 ที่สถานที่จัดอยู่ในเขต Ásbrú ที่เป็นฐานทัพเก่าของทหารอเมริกา และ นาโต้ ใกล้กับสนามบินนานาชาติ Keflavík แล้ว ผมก็แยกเดี่ยวเพื่อไปเทรค Laugavegur trail ในไฮแลนด์ตอนกลางของประเทศ หรือที่เรียกกันว่า Iceland Interior
เส้นทาง Laugavegurinn หรือ Laugavegur trail (อ่านง่ายๆว่า เลากาเวเกอร์ เทรล) เส้นทางนี้เป็นเทรคยอดฮิตของประเทศไอซ์แลนด์ เรียกได้ว่า ถ้าพูดถึง multi-day trek ของประเทศนี้แล้ว คนไอซ์แลนด์ก็จะนึกถึงเทรคเส้นนี้เป็นลำดับแรก โดยแม้แต่ชื่อเทรลนี้ ยังตั้งชื่อมาจากถนนช้อปปิ้งหลักของเมืองเรคยาวิค เมืองหลวงของประเทศ และยังเป็นหนึ่งใน 20 WORLD’S BEST HIKES ของนิตยสาร National Geographic อีกด้วย
DAY 1 Landmannalaugar – Hrafntinnusker (12K) 3 ชั่วโมงครึ่ง
ผมออกเดินทางจากสนามบิน Keflavík นั่ง fly bus ของสนามบินมาถึง BSI Bus Terminal ในเรคยาวิค นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในรถ แยกย้ายขึ้นรถชัทเทิลขนาดเล็ก เพราะรถของ fly bus พาไปส่งถึงแต่ละโรงแรมเลย ส่วนผมก็เอาตั๋ว Bus Passport ที่ซื้อจากอินเตอร์เน็ต ไปให้เคาท์เตอร์เขาปริ๊นท์ให้ พอใกล้ๆ แปดโมง รถที่มีจุดหมายปลายทางที่อื่นเริ่มออกไป รถเราก็เข้ามา เขาจะมีวางป้ายชื่อจุดหมายปลายทางอยู่หน้ารถ ผมหลับเกือบตลอดทาง มาตื่นเอาตอนประมาณ 11โมง ก็พบว่า F Road นี่มันโหดจริงๆ มีทั้งวิ่งข้ามแม่น้ำ ขึ้นภูเขาสุดชัน ไม่นึกว่า บัสใหญ่ขนาด 40 ที่นั่งแบบนี้จะทำได้ ถนนใน Iceland ถ้ารหัสมีตัว F ขึ้นหน้าแปลว่า เป็นถนนสำหรับรถ 4WD เท่านั้น สมมติ ถ้าใช้ GPS ในรถเช่าของเรา หากเราหลุดเข้าถนน F นี้ มันก็จะร้องดังเตือนขึ้นมา และก็เป็นกฏสำหรับการเช่ารถด้วย ว่าถูกปรับแน่ๆ หากเอารถเก๋งทั่วไปไปขับเข้าเส้น F Road
มาถึง Landmannalaugar เที่ยงครึ่ง เลทไปครึ่งชั่วโมง ไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร ก่อนลงจากรถ ก็มีเจ้าหน้าที่สาวของที่นี่ขึ้นมาอธิบายสถานที่ว่า ที่นี่มีอะไรบ้าง แคมป์ไซท์ ห้องน้ำ ศูนย์ให้บริการข้อมูลอยู่ตรงไหนบ้าง
เมื่อได้หยิบของจากใต้รถแล้ว เจ้าหน้าที่ยังอยู่ ก็เลยไปถามเขาว่า ผมจะออกเทรคเส้น Laugavegur trail ต้องให้ไปลงทะเบียนอะไรไหม เขาก็บอกว่าไม่ต้อง และเขาถามมาว่า จะออกเลยหรอ ไปคนเดียวรึเปล่า ตอนนี้ข้างบนสภาพอากาศและทัศนวิสัยแย่มากนะ ผมบอกว่า ใช่ ผมไปคนเดียว ตอนนี้แย่มากเลยหรอครับ? ในใจเริ่มเสียว เจ้าหน้าที่เลยถามว่ามี GPS รึเปล่า ผมตอบว่ามี เขาก็บอกว่า งั้นน่าจะโอเคค่ะ และยิ้มให้
ผมก็หัวเราะในใจว่า 555 ง่ายจัง สรุปมันแย่ หรือ ไม่แย่นะเนี่ย
Landmannalaugar เปรียบเสมือนเป็นเบสแคมป์ของนักเดินเขาทั่วไป นอกจากจะเป็นจุดเริ่มต้นของเทรค Laugavegur trail ที่นี่ยังมีเส้นทาง day hike อีกมากมาย ระยะสั้นระยะยาวแตกต่างกันไป ที่เจ๋งคือ มีแม่น้ำร้อนให้ลงไปอาบอีกด้วย หลายคนเลือกที่จะกางเต๊นท์ที่ Landmannalaugar คืนหนึ่งก่อน แล้วตอนเช้าวันรุ่งขึ้น ก็เทรคตรงไปที่ Álftavatn แต่สำหรับผม เลือกที่จะออกเดินทางเลย และไปนอนคืนแรกที่ Hrafntinnusker (1,100 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล) ซึ่งเป็นแคมป์ที่สองในเส้นเทรค Laugavegur trail หากนับที่ Landmannalaugar เป็นแคมป์แรก (แล้วเย็นนั้นก็พบว่า คิดผิดงะ!)
หลังจากนั่งกินข้าวเที่ยงที่เตรียมมาแล้ว เติมน้ำ เช็คของต่างๆเรียบร้อยประมาณบ่ายโมง ผมก็เริ่มออกเดินเท้าทันที อากาศขมุกขมัวมาก ไม่เหลือเค้าของอากาศดีๆ ท้องฟ้าเปิดสีสดที่เรคยาวิคเลย
เริ่มเทรลไม่ถึง 5 นาที ก็ต้องเหยียบลุยหิมะแล้ว วันแรกนี้มีความชันสะสมประมาณ 500 เมตร ทางส่วนใหญ่มีแต่ขึ้นกับขึ้น
จากการอ่านรีวิวของหลายเว็บ เขาว่า ช่วงวันแรกและวันที่สอง จะเป็นช่วงที่สวยที่สุด แต่กว่าชั่วโมงที่เดินมา มีหมอกปกคลุมอยู่ตลอด และฝนก็เริ่มตกลงมาแล้ว
สองชั่วโมงแรกเจอคนเยอะมาก ส่วนใหญ่มา day hike กัน บางช่วงเจอกรุ๊ปใหญ่เด็กนักเรียนเกือบ 30 คนก็มี แต่พอหลังจากนั้น เริ่มร้างคน ไม่เจอใครเลย
ประมาณ 4 โมงเย็น รอบข้างเริ่มกลายเป็นแบบนี้ และฝนยังตกอยู่ตลอด อีกแป๊บนึงหลังจากคิดว่าโอยหนาวๆๆๆๆ เปียกๆๆ ทุกอย่างเปียกหมด ก็มี mountain hut โผล่ขึ้นมาข้างหน้า กลางสายหมอก เย่ ถึง Hrafntinnusker แล้ว แต่ความดีใจก็แทบจะหายไปในทันที เมื่อเห็นภาพลานกางเต๊นท์ที่ต้องกาง กลางหิมะ พร้อมมี จอบปักๆอยู่สิบกว่าอัน ในใจตอนนั้นคิดว่า เฮ่ย! จอบไว้ทำไรงะ? หลังจากยืนอึ้งแป๊บนึงว่า หรือเราจะลุยไปต่อเลยดีไหมนะ ไปแคมป์หน้าเลย ไม่นอนที่นี่แล้ว โหดไป! แต่ก็คิดว่าไม่เอาดีกว่า ฝนตกขนาดนี้และหมอกขนาดนี้ จะดื้อเดินไป ก็คงแทบจะไม่เห็นวิวอะไรเลย อย่างที่ผ่านมาใช้เวลาเดิน 3ชั่วโมงครึ่ง เห็นวิวอยู่แค่ตอนชั่วโมงแรกเท่านั้น ค่าตั๋วมาถึงประเทศนี้ ไม่ใช่โปรแอร์เอเชีย 0 บาท จะมาเดินทน ก้มหน้าๆ ใช่เรื่องที่ไหน แล้วถ้าแคมป์หน้าหิมะหนากว่านี้ทำไงล่ะ?
พอเดินเข้าฮัทไปเพื่อจะจ่ายค่ากางเต๊นท์ ก็เกือบเป็นลม เพราะมันคือห้องรมแก็สชัดๆ ตรงนี้เป็นห้องแรกที่ทุกคนที่นอนในฮัท ต้องถอดบู้ทออกทิ้งไว้ และแขวนเสื้อผ้าเปียกไว้ในห้องนี้ กลิ่นสุดทนจริงๆ ค่ากางเต๊นท์คนเดียว 1,600 ISK พอจ่ายไปเสร็จ ก็ไม่วายทำหน้าน่าสงสาร และถามเจ้าหน้าที่ไปว่า เตียงข้างในยังมีเหลือไหมค้าบ? เจ้าหน้าที่ส่ายหัวและยิ้มละบอกว่า NO!
เอาไงเอากัน! เดินอยู่รอบหนึ่ง หาทำเลที่โอเคที่สุด วางเป้ไว้กลางหิมะ เพราะไม่มีที่แห้งให้วางแล้ว หยิบจอบ ขุด โกย เขี่ย ทำหิมะให้ราบที่สุด เพื่อที่จะกางเต๊นท์ ไม่ยากอย่างที่คิด แต่ีสิ่งที่ยากสุดก็คือ พอกางเต๊นท์แล้วจะเสียบเป็กเต๊นท์ ลงไปกับพื้นหิมะ เป็กเจ้ากรรมมันก็หลุดขึ้นมาตลอดเวลา ระหว่างนี้ฝนก็ยังตกลงมาเรื่อยๆ หนาวจนสั่นไปทั้งตัว หลังจากศึกษาผู้คนรอบข้าง ก็เริ่มไปหาหินมาวางทับสายเต๊นท์แทน บางจุดก็ใช้จอบขุดลึกที่สุด และเอาเป็กปักลงไป และรีบโกยหิมะปิดทับให้แน่นๆ ก็เอาอยู่
เข้าเต๊นท์ได้รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า กางแผ่นรองนอนทันที เพราะพื้นเต๊นท์ที่เหยียบลงไป มันเย็นเท่ากับเหยียบบนน้ำแข็งเลย T-T นอนสั่นอยู่นานมาก จนต้องเปิดแก็สต้มน้ำ รับความร้อน ถึงอุ่นขึ้นมา มื้อเย็นนี้ไม่มีอารมณ์กินอะไร เลยทานแต่มาม่าเกาหลี และต้มน้ำไปเรื่อยๆ แต่พอหลังจากได้ของร้อนลงท้องเข้าไป ทุกอย่างก็เริ่มอยู่ตัว อุณหภูมิร่างกายเริ่มกลับสู่ปกติ
Day 2 Hrafntinnusker – Álftavatn (12K) 5 ชั่วโมง
วันนี้นอนตื่นมาแปดโมงกว่า จริงๆก็ตื่นมาเป็นระยะๆตลอดแต่เพราะอากาศที่หนาวทำให้แทบไม่อยากขุดตัวเองออกมาจากถุงนอนที่สุดหนานุ่ม
ผมเริ่มออกเดินทางประมาณ 10โมงครึ่ง ซึ่งนับว่าเกือบสายที่สุดในแคมป์ ช่วงชั่วโมงแรก ยังเป็นทางขึ้นชันเรื่อยๆต่อจากเมื่อวาน และก็ยังปกคลุมไปด้วยหิมะอยู่ตลอดทาง บางตอนก็มีรอยแยกของหิมะ อยู่ข้างๆ ถ้าไม่ได้ใช้ตามอง ก็ตกลงไปได้เลย เสียวมาก
แถวนี้สวยมาก วิวจากจุดที่เกือบสูงสุดของวันนี้
เทรลช่วงนี้บางตอนจะมีไอน้ำร้อนขึ้นมา กระจายไปทั่ว ตอนแรกคิดว่าหมอก แต่มันจะมีกลิ่นไข่เน่าขึ้นมาด้วย ถ้ามีกลิ่นนี้ก็รู้ได้เลยว่า ยืนพักได้ยาวเพราะจะเป็นช่วงที่อุ่นมาก
วันนี้แทบจะเดินคนเดียวทั้งวันเลย
มีเจอคนสวนทางมาบ้าง (มีหลายคนเลือกที่จะเริ่มเดินย้อนจาก ÞÓRSMÖRK มาจบที่ Landmannalaugar แต่จะเป็นทางที่ชันมากกว่า) เพราะคนที่นอนที่แคมป์เมื่อคืน ออกไปกันก่อน ส่วนพวกที่เริ่มจาก Landmannalaugar ก็ยังมาไม่ถึงกัน
เดินมาเกือบๆ 3 ชั่วโมง หมอกก็เริ่มจางหายไป
เจอบางคนชิลมาก นอนปิคนิค พักเที่ยง ทำอาหารกินกัน
2-3 โล สุดท้าย ก่อนถึง Álftavatn จะเป็นทางราบทั้งหมด ช่วงนี้อยู่ดีๆก็มีแดดลงมา อากาศเริ่มดีขึ้น
ที่นี่ผมโชคดีได้ที่นอนข้างในฮัท
แต่พอเห็นลานกางเต๊นท์ ก็รู้สึกว่าถ้าอากาศดีอย่างนี้ และวิวทะเลสาบที่ลานกางเต๊นท์จะสวยขนาดนี้ เราจะไปนอนแออัดในฮัททำไมกันละเนี่ย
ที่นี่ห้องน้ำดีมากกกกก น้ำตาจะไหล มีห้องอาบน้ำด้วย ต้องไปซื้อคูปองกับผู้ดูแล ราคาค่าอาบน้ำ 500 ISK เมื่อเราเตรียมตัวถอดเสื้อผ้าอะไรเรียบร้อย เอาคูปองไปเสียบแสกนในตู้ในห้องอาบน้ำ จะมีน้ำร้อนออกมาให้อาบได้ 5 นาที ฟินสุด!
อ่าน LAUGAVEGUR TRAIL : ICELAND เดินลุยเดี่ยวในดินแดนเวิ้งว้างแห่งไอซ์แลนด์ part 2 ได้ที่นี่
About the Author
Chanachai Ohpanayikool
Menswear Designer turned Race Director/Trek Director of Race Hunter and Trek Hunter Thailand. Music geek turned travelling geek, turned running geek, turned camping geek. (on repeat!) | trekhunterthailand.com