31/10/2018

เตรียมชม Miquel Barceló สร้างสรรค์งานศิลปะระดับโลกเหนือแม่น้ำเจ้าพระยา

เวิ้งโดมพื้นผิวแปลกตา ที่ดูคล้ายหินงอกหินย้อยหลากสีสันอันโออ่า ราวกับเป็นโถงถ้ำในจินตนาการขนาดมหึมา ลอยสูงอยู่เหนือกลุ่มผู้นำ และบุคคลสำคัญ และจากนานาประเทศทั่วโลกในห้องประชุมหนึ่งขององค์การสหประชาชาติ ณ กรุงเจนีวาประเทศสวิตเซอร์แลนด์

บ่อยครั้งที่ศิลปินสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่โดดเด่นเป็นที่จดจำของชาวโลก แต่ไม่บ่อยนักที่เราจะเห็นงานศิลปะไปอยู่บนเพดานของอาคารสหประชาชาติ ในขนาดที่ยิ่งใหญ่และน่าตื่นตะลึงระดับนี้

Barceló Dome หรือที่มีชื่อเล่นว่า “The UN’s Sistine Chapel” ชิ้นนี้ เป็นผลงานของศิลปินชาวสเปนที่มีชื่อว่า มิเกล บาร์เซโล (Miquel Barceló) ซึ่งตอนนี้เขากำลังจะมาสร้างงานศิลปะให้เป็นที่จดจำอีกครั้ง บนสายน้ำเจ้าพระยาใจกลางมหานครกรุงเทพของเรานี่เอง

เพดานห้อง the human rights and alliance of civilizations – United Nations Geneva  © Agustí Torres, 2008

ปี 2018 นี้ถือว่าเป็นปีทองของแวดวงศิลปะในประเทศไทย ที่นอกจากจะมีเทศกาลศิลป์ยิ่งใหญ่ระดับโลกเกิดขึ้นในบ้านเราแล้ว ยังมีศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลกอีกมากมายต่างเข้ามาแสดงผลงานให้เราได้ชมกันถึงเมืองไทย โดยเฉพาะโปรเจกต์อาร์ตน่าสนใจล่าสุดที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้อย่าง Sansiri presents Miquel Barceló : DESPINTURA FÒNICA ที่เทียบเชิญศิลปินมีชื่อเสียงระดับโลก มิเกล บาร์เซโล (Miquel Barceló) บินมาแสดงฝีมือให้ชมกันอย่างใกล้ชิด ซึ่งคอนเซ็ปต์ในการนำเสนองานศิลปะครั้งนี้จะมาในรูปแบบ การแสดงผลงานศิลปะแสดงสดร่วมสมัย (Live Art Performance) ที่ใช้ศิลปะการแสดงผสมผสานกับการสร้างสรรค์งานจิตรกรรมนั่นเอง

งาน “Gran elefant dret” (“Great elephant standing”) 2009, Barcelona © Santiago Santos / Universidad de Salamanca

งานแสดงศิลปะครั้งนี้ จะเป็นการตวัดพู่กันระบายสีลงบนผืนผ้าใบขนาดใหญ่ที่มีความยาวกว่า 20 เมตร ซึ่งถือเป็นผืนผ้าใบที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ มิเกล บาร์เซโล เคยจัดแสดงมา โดยกิจกรรมศิลปะในรูปแบบ Live Art Performance ครั้งนี้ จะเกิดขึ้นบนเรือที่กำลังล่องอยู่บนแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านทัศนียภาพอันงดงามสองฟากฝั่ง ระหว่างที่ศิลปินแสดงฝีมือให้ชมกันสดๆ ไปด้วย

ไฮไลท์ที่พิเศษที่สุดในการแสดงศิลปะครั้งนี้ คือการใช้หมึกที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษตลอดจนใช้เส้นใยพิเศษทอเป็นผืนผ้าใบขึ้นด้วย เมื่อศิลปินระบายหมึกลงบนผืนผ้าใบไปสักพักแล้วนั้นหมึกนี้ก็จะจางหายไป ทำให้ตลอดเวลาที่ศิลปินสร้างสรรค์งานศิลปะครั้งนี้ภาพจะเหมือนกับมีชีวิต เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา เกิดงานศิลปะขึ้นใหม่ทุกวินาทีที่วาดแปรงลงบนผ้าใบ และเมื่อจบงานทุกสีของฝีแปรงที่ปาดลงไปบนผ้าใบก็จะจางหายไปหมด เป็นการสะท้อนถึงสัจธรรมเรียบง่ายของทุกสิ่งบนโลกที่เกิดขึ้นแล้วก็ต้องกลับคืนสู่ความว่างเปล่าเช่นเดิมไปในตัว

Paso Doble, Performance with Josef Nadj  © Agustí Torres, 2015

มิเกล บาร์เซโล (Miquel Barceló) เป็นศิลปินชาวสเปน เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1957 เขาได้รับพรสวรรค์ด้านศิลปะที่สืบทอดทางสายเลือดจากแม่ของเขาซึ่งเป็นจิตรกรท้องถิ่นที่หลงใหลในการวาดภาพทิวทัศน์

จุดเริ่มต้นของการหลงใหลศิลปะแนวอาว็อง-การ์ด (Avant-garde) ของเขาเกิดขึ้นเมื่อครั้งเดินทางไปปารีสเป็นครั้งแรก มันทำให้เขาได้พบกับงานภาพเขียนสไตล์ดิบที่วาดขึ้นจากจิตใต้สำนึกแนว Art Brut และ Art Informel ของ Jean Dubuffet จนเป็นเหตุให้ตกหลุมรักงานในลักษณะนี้เป็นอย่างมาก ทำให้เขาตั้งใจมุ่งเข้าศึกษาศิลปะอย่างจริงจังจนกระทั่งสำเร็จเป็นศิษย์ของสถาบัน Fine Arts School of Barcelona ในที่สุด

หลังจากจบการศึกษาเขาสร้างสรรค์ผลงานศิลปะไว้มากมาย แต่จุดที่ทำให้บาร์เซโลกลายเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลกขึ้นมาก็คือการถูกคัดเลือกให้แสดงผลงานศิลปะในเทศกาลศิลป์ Documenta VII ที่เยอรมัน ในปี ค.ศ. 1982 นั่นเอง

นอกจากงานศิลป์บนผ้าใบแล้วอีกผลงานศิลปะที่โดดเด่นของเขาก็คืองานประติมากรรมตลอดจนภาพจิตรกรรมฝาผนังตามโบสถ์หลายแห่งในสเปน ผลงานเด่นก็เช่นประติมากรรมแห่งโบสถ์ Cathedral of Santa Maria of Palma (La Seu) ในเมือง Palma แคว้น Majorca แต่นั่นก็ยังไม่โดดเด่นและโด่งดังเท่าผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกของเขาอย่างประติมากรรมประหลาดบนเพดานโดมขนาดมหึมาของห้องประชุม Human Rights and Alliance of Civilizations Room ที่สำนักงานองค์การสหประชาชาติ ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นั่นเอง ผลงานนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 2008 มีแนวความคิดที่ต้องการสื่อถึง “a sea and a cave, the absolute union of opposites” อย่างไรก็ดีผลงานนี้ไม่ปรากฏชื่ออย่างเป็นทางการ แต่มีชื่อเล่นที่ถูกเรียกขานกันว่า “The UN’s Sistine Chapel” และ “The Sistine Chapel of the 21st century” นั่นเอง

นอกจากเกียรติประวัติครั้งสำคัญที่รัฐบาลสเปนมอบหมายภาระกิจยิ่งใหญ่ในครั้งนั้นแล้ว เขาก็สร้างเกียรติประวัติทางศิลปะให้กับตัวเองอีกมากมายหลายครั้ง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการได้รับเกียรติให้นำผลงานศิลปะของเขาไปจัดแสดงที่ พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Musée du Louvre) ประเทศฝรั่งเศส ในปี ค.ศ. 2004 ซึ่งครั้งนั้นยังถือเป็นการบันทึกประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญที่ทำให้เขากลายเป็นศิลปินที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติการที่ได้รับโอกาสและเกียรตินำผลงานไปแสดงภายในพิพิธภัณฑ์อันทรงคุณค่าและยิ่งใหญ่ของโลกนี้

สำหรับประสบการณ์ศิลปะระดับโลก Sansiri presents Miquel Barceló : DESPINTURA FÒNICA จะจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน คือวันที่ 1-2 พฤศจิกายน 2018 นี้ โดยจะล่องเรือแสดงการสร้างสรรค์ศิลปะให้ชมกันสดๆ ไปตามแม่น้ำเจ้าพระยา (ในเขตกรุงเทพฯ) โดยเรือจะเริ่มออกจากท่าเรือธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อย เวลา 15.30 น. และจะกลับมาเทียบท่าขึ้นฝั่งยังที่เดิมในเวลา 16.30 น. สำหรับใครที่ไม่มีโอกาสขึ้นไปชมการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะบนเรือ ก็ยังสามารถแวะไปชมนิทรรศการเกี่ยวกับศิลปินตลอดจนผลงานศิลปะของเขา ณ บริเวณท่าเรือธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อย ได้อีกด้วย ติดตามรายละเอียดต่างๆ ของงานนี้ได้ที่ www.facebook.com/sansirifamily