แชมเปญ สัญลักษณ์แห่งการเฉลิมฉลอง

จุกคอร์กที่ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าตามมาด้วยพรายฟองที่พวยพุ่งออกจากขวดแชมเปญเป็นภาพที่ผู้คนคุ้นเคยกันดี ไม่ว่าจะในงานสังสรรค์, พิธีแต่งงาน, พิธีฉลองแชมป์กีฬา, ฉลองชัยชนะจากสงคราม ไปจนถึงพระราชพิธีของราชวงศ์สูงศักดิ์ การเฉลิมฉลองด้วยแชมเปญกลายเป็นประเพณีสากลที่นิยมไปทั่วโลกมานับร้อยปี และชื่อที่ใครๆ ก็ต้องเคยได้ยินติดหูอยู่เสมอ ก็คือชื่อของ Moët & Chandon

เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2019 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส Moët & Chandon เฉลิมฉลองวาระครบรอบ 150 ปี ของ Moët Impérial แชมเปญอันเป็นสัญลักษณ์แห่งการเฉลิมฉลองของโลกที่สะท้อนจิตวิญญาณแห่งชัยชนะ และความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างราชวงศ์ฝรั่งเศสกับ Moët & Chandon

เดิมที Moët Impérial ถูกผลิตเป็นแชมเปญบรุทนอนวินเทจในชื่อว่า Brut Impérial เป็นครั้งแรกเมื่อปี 1869 แล้วจึงเปลี่ยนเป็นชื่อ Moët Impérial ในภายหลัง เพื่ออุทิศให้กับความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างจักรพรรดินโปเลียน โบนาปาร์ต กับ ฌอง เรมี โมเอ็ต หลานชายทายาทของเคลาด์ โมเอ็ตผู้ก่อตั้ง Moët et Cie ซึ่งการเปิดตัว Moët Impérial ในครั้งนั้นยังจัดขึ้นในเวลาเดียวกับพิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของจักรพรรดินโปเลียนอีกด้วย นับแต่นั้นมา Moët Impérial ก็ถือได้ว่าเป็นแชมเปญขวดสำคัญที่จะขาดไม่ได้ในพิธีเฉลิมฉลองให้กับชัยชนะและความสำเร็จ

ประเพณีฉลองชัยด้วยกระบี่ – Champagne Sabering

เมื่อเอ่ยถึงนโปเลียน คงจะไม่ท้าวความถึงตำนานการเปิดขวดแชมเปญไม่ได้ นโปเลียนนั้นชื่นชอบแชมเปญเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในโอกาสฉลองชัยชนะ หนึ่งในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ยืนยันถึงความหลงใหลในแชมเปญของนโปเลียน คือภาพวาดเมื่อครั้งเยี่ยมเยือนโรงบ่ม Moët et Cie ในปี ค.ศ.1807

จักรพรรดินโปเลียนยังถือได้ว่าเป็นต้นกำเนิดประเพณี Sabrage หรือ Champagne Sabering หรือการใช้กระบี่เปิดแชมเปญ ในระหว่างสงครามนโปเลียน (1803–1815) กองทหารม้าของท่านได้รับชัยชนะต่อเนื่องในหลายสมรภูมิ ครั้งหนึ่งเมื่อกองทัพเดินทางกลับสู่เมืองชองปาญ ชาวเมืองก็ร่วมเฉลิมฉลองด้วยการโยนขวดแชมเปญให้กับเหล่าทหารบนหลังม้า แต่เครื่องแต่งกายที่เต็มยศนั้นค่อนข้างจะเป็นอุปสรรค ทหารม้าจึงชักกระบี่ที่เป็นอาวุธคู่กายมาฟันจุกคอร์กให้กระเด็น เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

ไม่มีใครคาดคิดว่าวิธีการนี้จะกลายมาเป็นประเพณีฉลองชัยของกองทัพแห่งนโปเลียนไปเลย จนทำให้การเปิดขวดเฉลิมฉลองวิธีนี้ก็ถูกบัญญัติเรียกว่า Sabrage หรือ Champagne Sabering ที่กลายมาเป็นประเพณีคลาสสิกอย่างหนึ่งของการเปิดไวน์เฉลิมฉลองมาจนถึงทุกวันนี้

พิธีฉลองปล่อยเรือลงน้ำ – Ceremonial ship launching

ในปี 1893 Moët & Chandon กลายเป็นผู้จัดหาแชมเปญเพื่อถวายให้กับพระราชินีวิกตอเรีย ณ พระราชวังบัคกิ้งแฮมอย่างเป็นทางการ แชมเปญเป็นที่โปรดปรานในราชสำนักเสมอมา และนอกจากจะถูกใช้ดื่มสังสรรค์ มันยังกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของพิธีการสำคัญ เช่น พิธีปล่อยเรือลงน้ำ (Ceremonial ship launching) ที่จะใช้ขวดแชมเปญตีกับหัวเรือให้แตกเป็นมาตรฐานสากลแทบจะทุกแห่งในโลกตะวันตก

ว่ากันว่าครั้งหนึ่งสมเด็จพระราชินีนาถวิคตอเรียแห่งอังกฤษเสด็จประกอบพิธีปล่อยเรือ HMS Royal Arthur ในปี 1891 พระองค์ทรงปฎิวัติประเพณีดั้งเดิมด้วยการเปลี่ยนจากการใช้ไวน์มาเป็นแชมเปญ เพราะสีของไวน์นั้นคล้ายกับเลือด และประเพณีเดิมที่ใช้การดื่มไวน์แล้วเขวี้ยงแก้วเงินทิ้งนั้นสิ้นเปลืองมาก จึงเปลี่ยนมาใช้วิธีตีขวดแชมเปญที่หัวเรือแทน นับจากนั้นประเพณีนี้ก็เริ่มแพร่หลายไปทั่วโลก

เช่นเมื่อครั้งกษัตริย์เยอรมัน Wilhelm II เลือกแชมเปญของ Moët & Chandon ในพิธีการปล่อยเรือยอร์ชของท่านในปี 1902 หรือแม้แต่ ‘เรือบิน’ ในยุคต่อมา เมื่อฝรั่งเศสฉลองให้กับการขึ้นบินครั้งแรกของเครื่องบิน supersonic Concorde ในปี 1972 ด้วยการเสิร์ฟ Moët Impérial พร้อมกับเบลูก้าคาเวียร์เป็นอาหารคอร์สแรก

การฉลองชัยในกีฬา – Champagne Spray

Moët Impérial ได้ก้าวขึ้นสู่ความเป็นสัญลักษณ์ของการเฉลิมฉลองและความสนุกสนานบนเวทีกีฬาในปี 1967 เมื่อ Dan Gurney ขึ้นแท่นรับรางวัลชนะการแข่งขัน 24 Hours of Le Mans หนึ่งในสนามแข่งรถที่เก่าแก่ที่สุดในโลก แล้วเขย่าขวดแชมเปญแบบไม่ทันคิดก่อนจะเปิดจุกคอร์กสาดแชมเปญไปทั่ว

ไม่มีใครคาดคิดว่าพฤติกรรมที่เกือบจะดูห่ามๆ ในวันนั้นจะกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของการวัฒนธรรมการสเปรย์แชมเปญ ของผู้ชนะในการแข่งรถระดับโลกซึ่งเป็นที่รู้จักกันมาอย่างยาวนาน นักแข่งรถ Jackie Stewart เองก็ได้สืบทอดวัฒนธรรมการสเปรย์แชมเปญอย่างต่อเนื่อง โดยสเปรย์แชมเปญ Moët Impérial เพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะของเขาในปี 1971 ณ British Grand Prix. และต่อมาการสาดฟองฉลองชัยก็แพร่หลายไปสู่กีฬาประเภทอื่นๆ อีกด้วย

ภาพยนตร์ ดนตรี และการฉลองให้กับชีวิต

ดนตรีและแชมเปญถือเป็นการจับคู่กันที่สมบูรณ์แบบ เมื่อไนท์คลับอันเป็นตำนานอย่าง Studio 54 เปิดตัวในปี 1977 เหล่าดาราชั้นแนวหน้าของโลกจากวงการภาพยนตร์ ดนตรี และ แฟชั่น เช่น Woody Allen, Jerry Hall, David Bowie, Lauren Bacall and Diana Vreeland ต่างตบเท้ากันเข้ามาสังสรรค์เฉลิมฉลองชีวิตอันหรูหราของชาวนิวยอร์กกันที่นี่ แม้กระทั่งเจ้าพ่อแห่งวงการป๊อปอาร์ตอย่าง Andy Warhol ก็มักจะถูกถ่ายภาพพร้อมกับขวด Moët Impérial ในมืออยู่เสมอ

ในงานสำคัญของโลกภาพยนตร์แชมเปญแฟลคชิพของ Moët & Chandon ได้ถูกใช้เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จของผู้คนในแวดวงฮอลลิวูดในที่นั่งแถวหน้าของงานประกาศผลรางวัล Golden Globes Awards มาตั้งแต่ปี 1992 และยังเป็น Exclusive Champagne ในเวทียักษ์อย่างการประกาศผลรางวัล Oscar ด้วย รวมไปถึง Cannes Film Festival ที่เป็นดั่งสนามเด็กเล่นของ Moët Impérial ที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเฉลิมฉลองศูนย์กลางของศิลปะภาพยนตร์ชั้นเลิศแห่งนี้มานับทศวรรษ

---

Sponsored by Moët & Chandon

กว่า 275 ปี แล้วที่ Moët & Chandon สร้างสรรค์แชมเปญที่แสนวิเศษขึ้นมาให้กับโลกใบนี้ จนปัจจุบันกลายเป็นแชมเปญที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลกทั้งในฐานะเครื่องดื่มคุณภาพรสชาติเยี่ยมและเครื่องดื่มที่เป็นสัญลักษณ์แห่งการเฉลิมฉลองในโอกาสต่างๆ สำหรับปี ค.ศ.2019 นี้เองทาง Moët & Chandon ก็ถือโอกาสเฉลิมฉลอง 150 ปี ให้กับแชมเปญตัวเอกอย่าง Moët Imperial อันเป็น House’s Iconic Champagne เก่าแก่ที่ทรงคุณค่ากับแบรนด์มานาน และเป็นแชมเปญที่ขายดีที่สุดตลอดกาลอีกด้วย

ในโอกาสเฉลิมฉลองพิเศษนี้ทาง Moët & Chandon ยังได้จัดทำแชมเปญขวด Limited Edition ขึ้นเฉพาะ โดยออกแบบขวดในรูปแบบพิเศษเพื่อร่วมกันเฉลิมฉลองครบรอบ 150 ปี Moët Imperial ขวดพิเศษนี้เริ่มวางจำหน่ายแล้วที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สยามพารากอน, ดิ เอ็ม ควอเทียร์, และ เซนทรัล ฟู้ด ฮออล์ ใครที่อยากเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองครั้งสำคัญนี้ก็รีบไปหามาครอบครองได้เลย

#MoetMoment #MoetChandonTH