NEW YORK: citizenM โรงแรม ใหม่ใจกลาง Time Square

citizenM โรงแรม New York สุดหรูสุดฮิปจากอัมสเตอร์ดัม ได้ข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก มาเปิดตัวโรงแรมใหม่ บนแผ่นดินอเมริกาเป็นครั้งแรกในย่าน Time Square ใจกลางกรุง New York ซึ่งได้กลายเป็นดั่งโอเอซิสสำหรับนักเดินทาง ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางตึกระฟ้าของมหานครที่บ้าคลั่งที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ตัวอักษร M จากชื่อ citizenM (ประชาชน M) มีความหมายมาจากลักษณะของคนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของโรงแรมนี้ ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ต้องเคลื่อนที่ย้ายถิ่นอยู่ตลอดเวลา (mobile citizen) ราวกับไม่ได้เป็นประชาชนของพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง คนเหล่านี้เดินทางบ่อย ทั้งเพื่อการท่องเที่ยวและเพื่อติดต่อธุรกิจ  มีความรู้และความเชี่ยวชาญในการเดินทางรวมถึงการเลือกที่พัก มองหาคุณภาพและสุนทรียภาพ ที่คุ้มค่าต่อราคา คนเหล่านี้แม้จะต้องการความหรูหรา แต่ก็ไม่อยากจะถูกเอาเปรียบด้วยการโดนโขกราคาค่าห้องพักแพงๆ เพื่อแลกกับความฟุ้งเฟ้อที่เกินความจำเป็น ด้วยเหตุนี้เองทางโรงแรมจึงได้ตั้งชื่อโรงแรม ตามลักษณะของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของพวกเขา

ด้วยแนวคิดที่ต้องการจะตอบโจทย์และอำนวยความสะดวกให้กับเหล่านักเดินทางระดับโปร ทางโรงแรมจึงเริ่มด้วยการแก้ปัญหา ที่มักพบตามโรงแรมทั่วไป คือการรอคิวเช็คอินห้องพัก ซึ่งเป็นประสบการณ์แสนน่ารำคาญ สำหรับคนที่เพิ่งลงเครื่อง และยังเหนื่อยอ่อนจากการเดินทางด้วยการบินมาหลายชั่วโมง โรงแรม citizenM ไม่มี front desk แต่ใช้ระบบเครื่องเช็คอิน/เช็คเอาท์อัตโนมัติแทน (แบบเดียวกับที่สนามบิน) ซึ่งทำให้ขั้นตอนการลงทะเบียนรับห้องใช้เวลาไม่ถึงนาที ส่วนคนที่จะออกมาต้อนรับแขกที่นี่ จะไม่ใช่พนักงานต้อนรับแบบทางการที่พบได้เป็นปรกติตามล๊อบบี้โรงแรมทั่วไป ไม่ต้องแปลกใจ ถ้าหากพนักงานที่เดินเข้ามาทักทายคุณ คือคนเดียวกับบาร์เทนเดอร์เพิ่งชงเหล้าอยู่หลังบาร์

พนักงานของ citizenM มีความเป็น “เจ้าของบ้าน” มากกว่าที่จะเป็นแค่ “พนักงาน” มีความเป็น “บุคคล” มากกว่าการเป็นแค่ “เจ้าหน้าที่” ที่ต้องคอยสวมวิญญาณผู้ให้บริการคอยรับใช้แขก “เราไม่จ้างคนที่เคยทำงานโรงแรมมาก่อน” Robin Chadha ลูกชายเจ้าของ และ  CMO (Chief Marketing Officer) ของ citizenM กล่าว “พวกเขาคือคนจริงๆ ไม่มีการวางบทบาทใดๆให้พวกเขาต้องแสดง หน้าที่เพียงอย่างเดียวของพวกเขา คือช่วยเหลือ เพื่อให้แขกรู้สึกสะดวกสบาย” พนักงานของที่นี่จะไม่มีตำแหน่งตายตัว แต่จะสลับสับเปลี่ยนหน้าที่อยู่ตลอด เรียกอีกอย่างก็คือ พนักงานทุกคนมีตำแหน่งเดียวกัน ซึ่ง citizenM นิยามตำแหน่งนี้ว่าเป็นเสมือน “ทูต” ของโรงแรม

อาหารของโรงแรมนี้ เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน เพื่อความ “ยืดหยุ่น” ของช่วงเวลาในการรับประทานอาหารของแขก นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารและเครื่องดื่มร้อนๆแบบ grab-and-go สำหรับแขกที่เร่งรีบ เนื่องจากทางโรงแรมเข้าใจความรู้สึกของแขก ที่ต้องพบกับความยากลำบากในสถานการณ์แบบ “อาหารเช้าเลิกเสิร์ฟแล้วครับ” หรือ “อาหารกลางวันต้องรออีก 2 ชั่วโมงนะครับ” เพราะแม้แต่เจ้าของโรงแรมเอง ก็ยังเคยพบกับสถานการณ์การกินที่ลำบากจากโรงแรมหรูอื่นๆในเมือง New York เช่นกัน เป็นต้นว่า จะสั่งน้ำแค่ขวดเดียว แต่ต้องเข้าไปนั่งในร้านอาหารถึงจะสั่งได้ (เนื่องด้วยกฏของโรงแรมนั้น) ด้วยเหตุนี้ citizenM จึงอยากวางตัวเป็นโรงแรม ที่แม้จะหรูหราแต่ไม่มองข้ามการเอาใจใส่เรื่องง่ายๆ อย่างการกิน

เอกลักษณ์เฉพาะตัวของ citizen M เกิดจากการร่วมสร้างสรรค์ของหลายฝ่าย ได้รับการออกแบบทางสถาปัตยกรรมโดย Concrete บริษัทสถาปนิกแห่งอัมส์เตอร์ดัม ซึ่งเป็นที่รู้จักจากการออกแบบ Mercedes-Benz museum และร้าน Supper Clubs ทั่วโลก ในส่วนของเฟอร์นิเจอร์ แทบทุกชิ้น (ยกเว้นชิ้นที่สั่งทำพิเศษ) เป็นผลงานของ Vitra นักออกแบบจากเมืองบาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนี้ ทางโรงแรมยังได้นำเอา Mendo ร้านหนังสือแนวสร้างสรรค์จากอัมสเตอร์ดัม ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “porn for book lovers” มาเปิดตัวขึ้นที่นี่เป็นร้านแรกในอเมริกาอีกด้วย

ทุกสาขาของ citizenM จะตกแต่งด้วยผลงานศิลปะที่น่าสนใจเต็มห้องนั่งเล่นของโรงแรม (โรงแรมนี้เรียกล๊อบบี้ว่าห้องนั่งเล่น) ที่สาขา Time Square tower นี้ก็เช่นกัน ใครก็ตามที่เดินเข้ามาในโรงแรมนี้จะได้พบกับ “Walking in Time Square” งานจิตรกรรมด้วยทองคำเปลวขนาดยักษ์ของ Julian Opie (เจ้าของผลงานปกอัลบั้ม Blur: The Best Of) ตั้งตระหง่านอยู่ที่บริเวณลิฟท์ทันที ทางด้านข้างร้านหนังสือ Mendo มีงาน scren-print ภาพของพระราชินี Beatrix แห่ง เนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นผลงานของ Andy Warhol นอกจากนี้ยังมีงานภาพถ่าย “Last Supper” ในเวอร์ชั่นของ David LaChapelle และชิ้นงานอื่นๆที่น่าสนใจอีกมากมาย

ห้องพักของ citizenM มีเพียงแบบเดียว นั่นหมายถึงว่า ที่นี่เป็นโรงแรมหรูที่ไม่มีห้องสวีท “ทุกคนถือเป็นประชาชน (citizen) ที่มีความเท่าเทียมกัน, เรามีความเป็นประชาธิปไตยกันมาก” Chadha กล่าว เมื่อตอนออกแบบห้องพัก พวกเขานำรูปห้องพักจากโรงแรม 5 ดาวมาเป็นตัวอย่าง เพื่อขีดฆ่าเอาสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากห้อง โต๊ะวางทีวีที่เทอะทะและตู้ใส่เสื้อผ้าขนาดใหญ่ ถูกคัดออกไปแล้วเปลี่ยนเป็นทีวี LED จอแบนแขวนผนังแทน (มีช่องบันเทิงให้ดูฟรี) เปลี่ยนพื้นที่ใต้เตียงให้เป็นลิ้นชักเก็บของ ใช้เฟอร์นิเจอร์จำนวนน้อยชิ้นที่สุด เพื่อให้เกิดพื้นที่ใช้สอยมากที่สุด ทุกห้องมีเตียง king-size ที่นุ่มสบาย และถึงแม้ห้องจะมีขนาดกะทัดรัด แต่หน้าต่างขนาดใหญ่ที่ทำหน้าที่เป็นกำแพงด้านที่4 ก็ทำให้ห้องดูกว้างขึ้นกว่าที่เป็น

ระบบสั่งการทั้งหมดในห้อง สามารถควบคุมได้ด้วย tablet เพียงเครื่องเดียว ไม่ว่าจะไฟ, อุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ, นาฬิกาปลุก, ดนตรี, หรือ โทรทัศน์ ทำได้แม้แต่ตั้ง “อารมณ์” ให้กับห้อง เป็นต้นว่าแบบโรแมนติก, แบบชมภาพยนต์, และ แบบปาร์ตี้ ซึ่งจะทำให้รูปแบบของไฟและม่านในห้องเปลี่ยนไป นอกจากนี้ ข้างประตูห้องยังมีปุ่มที่เขียนว่า “Save the Planet” ซึ่งเป็น kill-switch ที่จะสั่งดับไฟทุกดวงด้วยปุ่มเดียว และแน่นอน Free Wi-Fi ในทุกพื้นที่ของโรงแรม

โดยรวมแล้ว สิ่งที่โรงแรม citizenM Time Square ตั้งใจสร้างขึ้น คือพื้นที่ที่เป็นมิตรสำหรับนักเดินทาง เพื่อต้อนรับคนที่มองหาโรงแรมหรู ที่มีคุณภาพ ในราคาที่ไม่เกินจริง ซึ่งตอนนี้ ทางโรงแรมได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว และเปิดให้จองห้องพักได้ที่เวบไซต์ของโรงแรม ในราคาเริ่มต้นที่ $199 ต่อคืน

Location:
citizenM New York Times Square
218 W. 50th St.
New York, NY 10019
United States

[hr align=”center” style=”dotted”]

Source: citizenM