NANJING: Porcelain Tower of Nanjing จากสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางกลายร่างสู่เจดีย์ยุคมิลเลนเนียม

จีนยุคใหม่เป็นชาติที่ขยันสร้างเซอร์ไพรส์ให้ชาวโลกตะลึงอยู่เสมอ หนึ่งในโปรเจกต์ที่กระตุกต่อมทึ่งคนรักประวัติศาสตร์ได้เป็นอย่างดี คือการปลุกชีพ Porcelain Tower of Nanjing หรือ เจดีย์กระเบื้องเคลือบแห่งนานกิง ในตำนาน ให้ฟื้นคืนมาตระหง่านอีกครั้ง แต่งานนี้ไม่ใช่การบูรณะซ่อมแซมโบราณสถานเก่าแก่ แต่เป็นการสร้างเจดีย์ใหม่เลียนแบบสถาปัตยกรรมดั้งเดิมขึ้นมา โดยใช้วัสดุทันสมัยในยุคปัจจุบัน และออกแบบโดยไม่มีโจทย์ที่ต้องยึดติดกับลักษณะเดิม ผลที่ได้คือเจดีย์ล้ำสมัยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ยังสามารถเป็นตัวแทนเล่าเรื่องราวในอดีตได้เป็นอย่างดี วัตถุประสงค์ในการสร้างเจดีย์ใหม่ครั้งนี้ก็เพื่อให้เป็นอนุสรณ์ประจำยุคปัจจุบัน แต่ก็ยังรำลึกถึงอนุสรณ์ในอดีตที่ถูกทำลายลงไปได้อย่างยอดเยี่ยมในคราวเดียวกัน

© goldmantis.com

ในยุคก่อนนอกจากกำแพงเมืองจีนแล้วก็มี Porcelain Tower of Nanjing หรือ เจดีย์กระเบื้องเคลือบแห่งนานกิง นี้แหละที่เป็นแลนด์มาร์คประจำชาติที่มีชื่อเสียงระดับโลก เพราะทั้งสองแห่งติดอยู่ในลิสต์ 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง (Seven Wonders of the Medieval World) ช่วงราวศตวรรษที่ 5-16 เหมือนกัน ถึงแม้ว่า 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ที่เพิ่งประกาศไปเมื่อปี 2007 จะยังคงมีกำแพงเมืองจีนติดโผยาวนานต่อเนื่องมาจนถึงยุคนี้ แต่เจดีย์กระเบื้องเคลือบแห่งนานกิงนั้นเลือนหายไปจากความทรงจำจนแทบไม่มีใครรู้จักมานานกว่า 150 ปีแล้ว เหตุผลหนึ่งคงเป็นเพราะเจดีย์กระเบื้องเคลือบแห่งนานกิงถูกทำลายราบจนเหลือแต่ซากในช่วงเหตุการณ์กบฏไท่ผิง (Taiping Rebellion) ที่เกิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19 (1850-1864) นั่นเอง

ภาพวาด Porcelain Tower, จาก “An embassy from the East-India Company” (1665)

โดย Johan Nieuhof

ในยุคก่อน เจดีย์กระเบื้องเคลือบแห่งนานกิงนั้นเป็นส่วนหนึ่งของวัดเป่าเสี้ยน (大报恩寺 / Bao’en Temple) ถูกสร้างขึ้นโดยสมเด็จพระจักรพรรดิหย่งเล่อแห่งราชวงศ์หมิงในช่วงต้นศตวรรษที่ 15 เพื่ออุทิศถวายแด่พระมารดาของพระองค์ เจดีย์นี้สูงกว่า 79 เมตร มีจำนวน 9 ชั้น นับว่าเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างของจีนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนั้นก็ว่าได้ ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 17 จึงได้มีชาวตะวันตกคนแรกมาค้นพบเจดีย์แห่งนี้ คือ Johan Nieuhof นักเดินทางชาวดัชท์ผู้มีชื่อเสียง เขาได้บันทึกการเดินทางและเล่าถึงเจดีย์แห่งนี้จนกลายเป็นที่เลื่องลือแก่ชาวตะวันตกในยุคนั้น เหตุนี้เองที่น่าจะทำให้เจดีย์กระเบื้องเคลือบแห่งนานกิงถูกบรรจุอยู่ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางไปด้วย

หลังจากเหตุการณ์กบฏไท่ผิงที่ทำให้เจดีย์กระเบื้องเคลือบแห่งนานกิงถูกทำลายจนเหลือแต่ฐาน พื้นที่บริเวณนั้นก็ถูกทิ้งร้างมานาน จนกระทั่งในปี 2007 เทศบาลท้องถิ่นนานกิงได้เริ่มต้นโครงการบูรณะวัดเป่าเสี้ยนขึ้น แต่การขุดค้นนั้นกลับพบโบราณวัตถุล้ำค่ามากมายรวมถึงพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าด้วยจนทำให้โครงการบูรณะขยายใหญ่ขึ้นและใช้เงินมหาศาลขึ้น ต่อมาในปี 2010 มหาเศรษฐีชาวจีน Wang Jianlin เจ้าของ Dalian Wanda Group บริษัทด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของจีนจึงได้บริจาคเงินกว่า 1 พันล้านหยวนเพื่อต่อทุนให้กับการบูรณะครั้งนี้ ซึ่งนี่ถือว่าเป็นการบริจาคแบบครั้งเดียวที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์จีนอีกด้วย

© CNN

โครงการบูรณะขยายใหญ่จนกลายเป็นอนุสรณ์สถาน ที่ผสมผสานวัฒนธรรมเก่าแก่ล้ำค่ากับวัฒนธรรมสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว เจดีย์กระเบื้องเคลือบแห่งนานกิงหลังใหม่นี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ในรูปแบบใหม่ มันตั้งอยู่ใน Nanjing Grand Bao’en Temple Heritage Park (หรือ The Jinling Da Bao En Temple Park) ริมฝั่งแม่น้ำแยงซีเกียงในเมืองนานกิง มลฑลเจียงซู ก่อสร้างด้วยเหล็กกล้าที่แข็งแกร่ง ติดกระจกทันสมัย แถมยังเพิ่มการออกแบบแสงไฟเล่นกับตัวอาคารจนทำให้เจดีย์นี้มีเสน่ห์ในยามค่ำคืนในอีกรูปแบบขึ้นมาเลยทีเดียว

© CNN

© CNN

ความล้ำสมัยไม่ได้มีอยู่แค่ภายนอกเท่านั้น เพราะภายในก็มีการตกแต่งได้เหนือชั้นไม่แพ้กัน แต่การออกแบบล้ำๆ นั้นก็ไม่ได้ทำสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะมันถูกคิดให้ต้องสามารถอยู่ร่วมกลมกลืนกับพุทธศาสนาตลอดจนวัฒนธรรมโบราณได้อย่างลงตัวเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีการจัด แสง สี เสียง ออกแบบ visual effects ไปจนกระทั่งเปิด Soundtrack ประกอบ ตลอดจนนำเอาเทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาใช้ในระบบชมพิพิธภัณฑ์อย่างเช่น QR Code ที่เราสามารถใช้สมาร์ทโฟนสแกนอ่านข้อมูลต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง จะว่าไปแล้วการก้าวเข้าไปชมสถานที่ประวัติศาสตร์แห่งนี้ให้ความรู้สึกเหมือนเข้าไปชมงานศิลปะใน Art Gallery เจ๋งๆ ก็ไม่ผิดนัก เรียกได้ว่าเป็นโปรเจกต์ modern renovation ที่สะท้อนประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมจีนโบราณออกมาในรูปแบบสมัยใหม่ได้อย่างน่าสนใจไม่น้อย

© chinanews.com

© CNN

เจดีย์กระเบื้องเคลือบแห่งนานกิงเพิ่งจะสร้างเสร็จและเปิดให้คนเข้าชมเมื่อปลายปี 2015 ที่ผ่านมา นอกจากการอนุรักษ์ซากดั้งเดิมให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการแล้วก็ยังมีการนำเอาโบราณวัตถุตลอดจนชิ้นส่วนเก่าแก่ของเจดีย์ดั้งเดิมที่ยังคงหลงเหลืออยู่มาจัดแสดงให้ชมด้วย ปรากฏการณ์ปะทะกันระหว่างความเก่าแก่และความทันสมัยนี้ลงตัวอย่างน่าประหลาด กรณีนี้อาจจะต้องปรบมือให้กับการสร้างเซอร์ไพรส์ของจีนครั้งนี้ที่กล้าลุกขึ้นมาเล่นกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมได้อย่างเข้าท่าทีเดียว

© goldmantis.com

© goldmantis.com

© CNN

[su_tabs][su_tab title=”Details”]
Opening Hours: ทุกวันเวลา 8.30 น. – 17.00 น.
Admission: 120 หยวน (ประมาณ 600 บาท)
Location:
Porcelain Tower of Nanjing
(Nanjing Grand Bao’en Temple Heritage Park)
Saozhou Alley, Qinhuai Qu, Nanjing, Jiangsu, China
[su_gmap width=”1600″ address=”Da Bao’en Temple, china”]Da Bao’en Temple[/su_gmap]
[/su_tab]
[/su_tabs]