SAN FRANCISCO : การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของ SFMOMA พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ฝั่ง West Coast
ทันทีที่กลับมาเปิดตัวอีกครั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2016 ที่ผ่านมา SFMOMA ก็กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่แถวหน้า ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งใน Modern Art Museum ที่ดีที่สุดของโลกไปในทันที แล้วการกลับมาใหม่ครั้งนี้ไม่เพียงแต่งานศิลปะที่จัดแสดงจะโดดเด่นไปเสียทุกนิทรรศการ แต่สถาปัตยกรรมที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่นั้นก็ยังเป็นที่จับตาไม่แพ้กันด้วย ส่งผลให้ซานฟรานซิสโกกลายเป็น Art Destination เมืองแห่งศิลปะที่โดดเด่นระดับโลกขึ้นมาอีกครั้ง
SFMOMA เป็นตัวย่อใช้เรียกพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ในเมืองซานฟรานซิสโกที่มีชื่อเต็มๆ ว่า San Francisco Museum of Modern Art ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่อุทิศให้กับศิลปะสมัยใหม่ในยุคศตวรรษที่ 20 เป็นหลัก ทั้งยังถือเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งแรกทางอเมริกาฝั่งตะวันตก ที่อุทิศให้กับศิลปะร่วมสมัย (Comtemporary Art) และศิลปะสมัยใหม่ (Modern Art) อีกด้วย
ถ้าฝั่งตะวันออก (East Coast) ของอเมริกา มี MoMA หรือ Museum of Modern Art ที่นิวยอร์กเป็นพระเอก ทางฝั่งตะวันตก (West Coast) ก็มี SFMOMA นี่แหละที่เป็นพระเอกเช่นกัน
พิพิธภัณฑ์ศิลปะนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1935 ภายใต้การดูแลของ Grace L. McCann Morley ซึ่งเดิมทีใช้ชื่อว่า San Francisco Museum of Art ตั้งอยู่บริเวณชั้น 4 ของ San Francisco War Memorial and Performing Arts Center (SFWMPAC) บนถนน Van Ness ในยาน Civic Center ตั้งแต่ปี ค.ศ.1932-1994 ก่อนที่จะย้ายมายังสถานที่ปัจจุบันที่มีตึกแรกเป็นของตัวเอง ตั้งอยู่บนถนน Third Street ในย่าน Yerba Buena
จุดเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนี้ก็คือช่วงที่ Henry T. Hopkins เข้ามาดูแลระหว่างปี ศ.ศ.1974-1986 จนทำให้พิพิธภัณฑ์นี้มีชื่อเสียงในระดับสากล โดยหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงสำคัญในครั้งนั้นก็คือการเติมคำว่า Modern เข้าไปในชื่อเดิมในปี ค.ศ.1975 อันถือเป็นจุดกำเนิดของตัวตนใหม่ที่เป็นรากฐานของตัวตนในทุกวันนี้นั่นเอง การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นอีกครั้งในยุคนี้ที่ Neal Benezra เข้ามาเป็นผู้จัดการพิพิธภัณฑ์ศิลปะนี้ โดยในเดือนมิถุนายน 2013 ทางพิพิธภัณฑ์ได้ประกาศปิดตัวชั่วคราวเพื่อรีโนเวทพื้นที่ใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ตัวอาคารเดิมไปจนถึงอาคารที่สร้างขึ้นมาใหม่เพิ่มเติม และเพิ่งจะกลับมาเปิดตัวในรูปโฉมใหม่อีกครั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2016 ที่ผ่านมานี่เอง
รูปโฉมใหม่ที่เปลี่ยนไปนั้นถือเป็นการยกเครื่องครั้งใหญ่ทีเดียว สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้นสถาปัตยกรรมที่สร้างสรรค์ขึ้นอย่างมีเอกลักษณ์ โดยอาคารใหม่ล่าสุดนี้ออกแบบโดย Snøhetta บริษัทสถาปนิกชั้นนำระดับโลก สิ่งที่โดดเด่นที่สุดนั้นเห็นจะเป็น façade สีขาวล้วนที่เป็นเส้นริ้วสวนกันไปมาอย่างแปลกตา ซึ่งพื้นผิวอาคารนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเมฆหมอกและกระแสน้ำในมหาสมุทรซึ่งเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของซานฟรานซิสโกที่ทุกคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีนั่นเอง
แรงบันดาลใจในส่วนนี้ยังถ่ายทอดไปธีมของถึงการออกแบบ Visual Identity ใหม่ของทางพิพิธภัณฑ์ด้วย ใช่ว่าเกิดอาคารใหม่แล้วอาคารเก่าจะถูกทิ้งร้าง อย่างไรก็ดีอาคารเก่าที่มีเอกลักษณ์นั้นยังคงถูกรักษาไว้เป็นอย่างดีเช่นเดิมซึ่งอาคารหลังเดิมที่โดดเด่นด้วยตึกอิฐสีแดงพร้อมปล่องทรงกลมลายขาวดำนั้นออกแบบโดย Mario Botta สถาปนิกชาวสวิสที่โด่งดัง กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของซานฟรานซิสโกมานาน อาคารใหม่ที่เกิดขึ้นนั้นมีการออกแบบให้เชื่อมต่อกับอาคารเก่าจนกลายเป็นพื้นที่ใช้สอยร่วมที่ออกแบบได้อย่างโดดเด่นทีเดียว เป็นนัยของการสื่อสารการเชื่อมต่อศิลปะสมัยใหม่จากศตวรรษที่ 20 สู่ ศตรวรรษที่ 21 ได้อย่างยอดเยี่ยมทีเดียว
รูปโฉมใหม่นี้มีไฮไลท์เด็ดอยู่ 2 ส่วนหลักๆ นั่นก็คือ Fisher Collection ผลงานศิลปะสะสมของ Doris และ Donald Fisher สองมหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งแบรนด์ GAP แฟชั่นระดับโลกที่มีต้นกำเนิดที่ซานฟรานซิสโกนี่เอง โดยผลงานศิลปะสะสมของตระกูลนี้ถือเป็นหนึ่งในผลงานสะสมศิลปะร่วมสมัยส่วนบุคคลที่ยิ่งใหญ่และมีคุณค่ามากที่สุดในโลกอีกด้วย ผลงานในคอเล็คชั่นของตระกูล Fisher ที่คัดเลือกมาจัดแสดงที่นี่ นั้นมีกว่า 260 ชิ้น เป็นผลงานศิลปะสมัยใหม่ที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์อเมริกาไปจนถึงยุโรปในหลากหลายมิติโดยเป็นผลงานของศิลปินที่โดดเด่นอย่าง Chuck Close, Ellsworth Kelly, Lee Krasner, Roy Lichtenstein, Agnes Martin ไปจนถึงผลงานชิ้นเด่นของ Andy Warhol ศิลปินยุคศตวรรษที่ 20 ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในวงกว้างมาจนถึงยุคปัจจุบัน
อีกหนึ่งโซนเด่นใหม่แกะกล่องก็คือ Pritzker Center for Photography โฉมใหม่ที่จับมือร่วมกับ Lisa & John Pritzker Family Fund เปิดแกเลอร์รี่ภาพถ่ายที่ว่ากันว่าใหญ่ที่สุดในอเมริกา ซึ่งเดิมที SFMOMA เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์แรกๆ ที่มุ่งสนใจการจัดแสดงภาพถ่ายในเชิงงานศิลปะมาตั้งแต่อดีต โดยมีคอเล็กชั่นที่เป็นภาพถ่ายเก็บสะสมไว้กว่า 17,800 ชิ้น ตั้งแต่ภาพถ่ายยุคที่ใช้กล้อง Medium Format ในปี ค.ศ.1839 จนถึงภาพถ่ายยุคดิจิตอลในปัจจุบัน สำหรับ Pritzker Center for Photography นี้มีพื้นที่จัดแสดงกว่า 1,440 ตารางเมตร มีภาพถ่ายทรงคุณค่าจัดแสดงอยู่มากกว่า 1,000 ภาพ และกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ตลอดจนศูนย์ข้อมูลด้านภาพถ่ายที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกา และเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ด้านภาพถ่ายที่ดีที่สุดในโลกในขณะนี้ด้วย
ปัจจุบัน SFMOMA มีพื้นที่จัดแสดงศิลปะกว่า 15,794 ตารางเมตร มีห้องจัดแสดงนิทรรศการกว่า 19 ห้อง มีผลงานศิลปะสะสมที่จัดแสดงอยู่กว่า 33,000 ชิ้น ตั้งแต่จิตรกรรม, ประติมากรรม, ภาพถ่าย, สถาปัตยกรรม, ออกแบบ, ไปจนกระทั่งศิลปะสื่อผสม เปิดพื้นที่จัดแสดงศิลปะสมัยใหม่ในยุคศตวรรษที่ 20 ที่โดเด่นของโลก ตลอดจนส่งเสริมศิลปะสมัยใหม่แห่งยุคศตวรรษที่ 21 ในคราวเดียวกันด้วย
อีกความตั้งใจของการขยายตัวในครั้งนี้ คือการเปิดพื้นที่ศิลปะสาธารณะให้คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น โดยพื้นที่บริเวณชั้น 1 ทั้งหมดกว่า 4,181 ตารางเมตร ทั้งในส่วนภายในและภายนอกอาคารนั้นจะเป็นโซนศิลปะที่เปิดให้ทุกคนเข้าชมได้ฟรี แถมโซนศิลปะถาวรบางส่วนยังเปิดให้เยาวชนที่อายุตำกว่า 18 ปี เข้าชมได้ฟรีอีกด้วย
[su_tabs][su_tab title=”Details”]
Opening Hours:
ทุกวันเวลา: Free Public Space 09.00-17.00 / Exhibition 10.00-17.00
ทุกวันพฤหัสเวลา 09.00-21.00
Admission: $25
Location:
San Francisco Museum of Modern Art (SFMOMA)
151 Third Street, San Francisco, CA 94103 USA
sfmoma.org
[su_gmap width=”1600″ address=”san franscisco museum of modern art”][/su_gmap]
[/su_tab] [/su_tabs]
Image © San Francisco Museum of Modern Art, Snøhetta