Spring in Germany เยอรมนี 4 ฤดู ตอนที่4 : ฤดูใบไม้ผลิ
โบกมือลาหิมะขาวๆ เพราะตอนนี้ ถึงเวลาที่ดอกไม้จะเบ่งบานแล้ว!
เหมือนทุกอย่างตื่นขึ้นจากการหลับไหล ทุ่งหญ้าหม่น เริ่มเขียวขจี ดอกเดซี่ในสวนหลังบ้าน เริ่มผลิบ้าน นี่คือช่วงเวลา ที่ชาวเยอรมันทั้งหลายรอคอย. . .
หลังจากหลบอากาศหนาวอยู่ข้างเตาผิงในบ้านมาหลายเดือน ในที่สุดก็ได้ออกไปเที่ยวเล่น ปิกนิคข้างนอกสักที วันไหนอากาศดี แดดออก ฉันต้องออกไปปูผ้า นอนอ่านหนังสือในสวน ให้ร่างกายได้รับวิตามินดีสักหน่อย ที่เด็ดกว่านั้นคือการได้เห็นสตรอว์เบอร์รี่ในสวน ค่อยๆ เปลี่ยนปีสีแดงฉ่ำ เชื้อเชิญให้ฉันไปเก็บมากิน พอเริ่มมีเยอะเกินก็ได้หาเรื่อง เอามาทำซอสบ้าง ทำเค้กบ้าง เรียกว่ากินกันจนเบื่อเลยทีเดียว
นอกจากนั้นยังมีหน่อไม้ฝรั่งสีขาว หรือ Spargel เป็นอาหารยอดฮิตของช่วงนี้ ไปไหนมาไหนก็เจอแต่แมนูหน่อไม้ขาวๆนี่ ที่ตลาดก็มีขายเต็มไปหมด ส่วนมากจะเอาไปนึ่งแล้วราดด้วยซอสฮอลันเดสหรือกินกับเนยเป็น side dish ของสเต็ก ไม่ต้องปรุงมาก เน้นรสชาติผักหวานๆ เนี่ยแหละ
สิ่งที่ฉันชอบอย่างนึงของที่นี่ คือคนเยอรมันกินผักผลไม้ตามฤดูกาลมาก อย่างหน่อไม้ฝรั่งสีขาวนี่ มีให้กินแค่เดือนสองเดือนเท่านั้นนะ ขึ้นเมนูแทบทุกร้านอาหาร แต่พอหมดฤดูนี่ต้องรอไปอีกปีนึงเลยทีเดียว
เพราะช่วงนี้ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เริ่มมีออกมาให้เห็นเยอะขึ้น เวลาไปเที่ยวงานแฟร์ต่างๆ จึงจะมีเครื่องดื่มโปรดของฉัน Erdebeerbowle หรือไวน์ขาว (หรือ sparkling wine) ผสมสตรอว์เบอร์รี่สดหั่นเป็นชิ้นๆ หอมหวานชื่นใจ จิบน้ำเสร็จเคี้ยวเบอร์รี่ต่อได้เลย
นอกเหนือจากของกินอร่อยๆ ความงดงามอีกอย่างของช่วงนี้ คงหนีไม่พ้นดอกไม้ที่บานสะพรั่งเต็มทุ่ง ความสุขเล็กๆของฉัน มักเกิดขึ้นในวันแดดดีที่ได้ขี่จักรยานขึ้นเนินไปดูพระอาทิตย์ตก หรือเวลามองออกไปนอก หน้าต่างรถไฟแล้วเห็นทุ่งดอกไม้สีเหลืองบานสะพรั่ง สีสันสดใสของธรรมชาตินี่มันทำให้โลกนี้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นเยอะจริงๆ เนอะ
สิ่งที่มาพร้อมกับฤดูใบไม้ผลิ คือเทศกาลอีสเตอร์ พูดถึงเทศกาลนี้ทีไร ในหัวฉันจะมีรูปของสองอย่างเด้งขึ้นมา นั่นคือไข่กับกระต่าย เอาจริงๆแล้วสองอย่างนี้มันเกี่ยวกันตรงไหนนะ กระต่ายไม่ได้แม้แต่จะออกลูกเป็นไข่เลยด้วยซ้ำ รู้แต่ว่าเดินเข้าซุปเปอร์มา์เก็ตทีไร ก็จะถูกรายล้อมด้วยช็อคโกแลตรูปไข่กับกระต่ายทุกที ฉันเองก็ได้ตะกร้าอีสเตอร์ที่เต็มไปด้วยช็อคโกแลตมาใบนึง เป็นธรรมเนียมที่ผู้ใหญ่ (หรือแม่ๆ ทั้งหลาย) จะให้ลูกในวันอีสเตอร์นั่นเอง
วันอาทิตย์อีสเตอร์ (Easter Sunday) จะเป็นวันที่ครอบครัวจะมาทานอาหารมื้อใหญ่ด้วยกัน ฉันช่วยโฮสพี่สาวจัดโต๊ะอาหาร พร้อมทั้งทำเส้น Spaetzle (เส้นก้วยเตี๋ยวสั้นๆ ป้อมๆ ทำจากแป้งและไข่) สองถาดใหญ่ๆ เตรียมไว้ให้พร้อมกับสมาชิกครอบครัวที่จะมาร่วมกินข้าวและพูดคุยกันในวันรุ่งขึ้น เด็กนักเรียนที่นี่จะมีวันหยุดอีสเตอร์ประมาณสองอาทิตย์ แน่นอนว่าฉันไม่ยอมนั่งเล่นนอนเล่นอยู่บ้านให้เสียเวลาอยู่แล้ว เลยตกลงจะไปเที่ยว Europa Park สวนสนุกชื่อดังในเยอรมนีกับเพื่อนๆ
หลายปีอากาศในช่วงปลายเดือนมีนาคมจะอุ่นขึ้นแล้ว แต่ปีที่ฉันไปนั้นอากาศแปรปรวนสุดๆ อุณหภูมิ ไม่เกิน 10 องศาด้วยซ้ำ วันที่เราแพลนกันว่าจะไปเที่ยวสวนสนุก เป็นวันหนึ่งในสัปดาห์ที่อากาศหนาวเย็นมาก อยู่ที่ประมาณ 0-7 องศาเอง การได้ขึ้นรถไฟเหาะในวันหนาวๆ แบบนี้เล่นทำเอาลมตีหน้าจนชาเลยทีเดียว

การไปเที่ยวสวนสนุกช่วงฤดูใบไม้ผลิ (แถมอากาศย่ำแย่) มีดีตรงที่คนน้อย ไม่ต้องเข้าคิวนาน ช่วงหน้าร้อน หรือ วันที่อากาศดี คนในสวนสนุกจะเยอะมาก จะรอเล่นเครื่องเล่นชิ้นนึงต้องเข้าแถวนาน โดยเฉพาะเครื่องเล่นหลักๆ อย่างรถไฟเหาะสุดหวาดเสียวทั้งสองอัน (Blue Fire และ Silver Star) นี่ไม่ต้องพูดถึง ขนาดวันที่ฉันไปแถวยังยาว ถ้าไปช่วงซัมเมอร์หรือเสาร์อาทิตย์ที่อากาศดี คงหมดเวลาไปกับการเค้าคิวเกือบครึ่งค่อนวันเป็นแน่

แต่จะเสี่ยงหน่อยตรงที่รถไฟเหาะหลักๆ จะไม่ทำงานถ้าอุณหภูมิไม่ถึง 7 องศา วันนี้เราลุ้นกันแทบแย่ว่าจะได้เล่น Blue Fire ไหม สุดท้ายตอนบ่ายๆ เครื่องก็เริ่มทำงาน เรามายืนเฝ้ากันตั้งแต่ขั้นตอนเทสต์รางเลยทีเดียว
บ่ายวันนั้นเราขึ้นๆ ลงๆ รถไฟเหาะทั้งสามอันกันหกรอบจนคุ้มค่าบัตร ก่อนจะหลับเป็นตายกันบนรถไฟระหว่างทางกลับบ้าน
พออากาศเริ่มเป็นใจ ผู้คนเลยชอบชวนกันไปบาร์บีคิวที่บ้าน งานวันเกิดก็บาร์บีคิว โรงเรียนหยุดก็บาร์บีคิว ไม่มีอะไรทำก็บาร์บีคิว ดื่มเบียร์ จิบไวน์ พูดคุยกันจนดึกดื่น อากาศเย็นสบาย เป็นอย่างงี้ยาวไปจนถึงต้นฤดูใบไม้ผลิเลยล่ะ
นั่งคุยกันใต้แสงเทียนสลัวๆ บรรยากาศดีเหลือเกิน
วันที่ 1 พฤษภาคมของทุกปี คือวันแรงงานของหลายๆ ประเทศทั่วโลกซึ่งถือเป็นวันหยุดราชการ วันหยุดแบบนี้ถ้าเป็นคนไทยอาจจะนอนเล่นอยู่บ้าน ออกไปเดินห้าง หรือไปเที่ยวไหนใกล้ๆ แต่คนเยอรมันนิยมไปเดินกันค่ะ
ใช่แล้วล่ะ ไปเดิน!
ช่วงใกล้ๆ วันแรงงาน เพื่อนจะชอบถามว่า “วันแรงงานจะไปเดินไหนกัน?” อาจจะฟังดูแปลกๆ แต่คนที่นี่เขาไปเดินกันจริงๆนะ (อย่างน้อยก็ทางตอนใต้ของเยอรมนีละกัน) ตามเนินตามทุ่งแถวบ้านนั่นแหละ จากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมืองหนึ่ง สำหรับวัยรุ่นที่ขาดไม่ได้เลยคือการพกเบียร์กับลำโพงไปด้วยด้วย บางกลุ่มนี่เอาลังติดล้อหรือรถเข็นเข็นลำโพงตัวเบ้อเริ่มกับเบียร์อีกเป็นลัง พอไปถึงจุดที่มีจัดงาน (ขายไส้กรอกและเบียร์ เยอรมันกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว) ก็ลงนั่งปิคนิค กินของที่เตรียมๆ กันมา ดื่มเบียร์ พูดคุย เล่นบอล เปิดเพลงเสียงดังตามประสา
ทั้งหมดนี้คือกิจกรรมวันแรงงานแปลกๆ ของคนเยอรมันเขาล่ะ
จบแล้วสำหรับทั้งสี่ฤดูในเยอรมนีที่ได้ไปสัมผัสมาด้วยตัวเอง แต่ละเมืองแต่ละภาคของประเทศอาจจะมีอะไรที่แตกต่างกันไปบ้าง ฉันรู้สึกว่าฤดูกาลที่ผันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทำให้ตลอดหนึ่งปีที่เยอรมนีนั้นมีอะไรเล็กๆ น้อยๆ ให้ค้นพบและตื่นเต้นไปกับมันอยู่เสมอ ทำให้แต่ละเดือนของที่นี่มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่คอยต้อนรับผู้มาเยือนนั่นเอง
ย้อนกลับไปอ่านตอนก่อนหน้าได้ที่นี่ Summer in Germany เยอรมนี 4 ฤดู ตอนที่1 : ฤดูร้อน, Autumn in Germany เยอรมนี 4 ฤดู ตอนที่2 : ฤดูใบไม้ร่วง และ Winter in Germany เยอรมนี 4 ฤดู ตอนที่ 3 : ฤดูหนาว หรืออ่านฉบับเต็มแบบ e-book ได้ที่ issuu.com