T77 Community เมืองเล็กท่ามกลางเมืองใหญ่ในซอยสุขุมวิท 77
นับตั้งแต่รถไฟฟ้าพาดผ่านถนนสุขุมวิท ย่านอ่อนนุช ก็เป็นย่านหนึ่งที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ที่อยู่อาศัยหลายระดับหลากรูปแบบผุดขึ้นมากมาย ทำให้ย่านนี้มีสีสัน และคึกคักขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก เนื่องจากมีผู้คนย้ายเข้ามาอยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เว้นแม้แต่ชาวต่างชาติจากหลากหลายประเทศ ทำให้ย่านอ่อนนุชมีความผสมผสานกันของวัฒนธรรม ตลอดจนผู้คนที่น่าสนใจ ตึกระฟ้าผุดขึ้นมากมาย ในขณะเดียวกันบ้านเรือนริมคลองตามวิถีดั้งเดิมก็ยังคงมีให้เห็นกันอยู่เยอะไม่แพ้กัน ร้านค้าคาเฟ่เก๋ๆ ผุดขึ้นเพียบในขณะที่ร้านอาหารท้องถิ่นดั้งเดิมก็ยังคงขายดีอยู่ไม่เปลี่ยน ผู้คนส่วนใหญ่เดินทางด้วยรถไฟฟ้าในขณะที่ก็ยังมีชาวบ้านพายเรือล่องตามลำคลองเหมือนแต่ก่อน ความผสมผสานกันของความแตกต่างเหล่านี้กลับเป็นเสน่ห์อีกอย่างที่ทำให้อ่อนนุชเป็นย่านน่าอยู่ไม่เหมือนใคร
หากลองเดินจากถนนสุขุมวิทเข้ามาในซอยอ่อนนุช หรือ สุขุมวิท 77 ไม่ไกลนัก เราก็จะเจอกับแหล่งหนึ่งของย่านอ่อนนุชที่กำลังน่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ ชุมชนที่ว่านี้ก็คือ T77 Community (ที 77 คอมมูนิตี้) ที่เป็นเสมือนเมืองเล็กซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางเมืองใหญ่ ที่อยู่ใกล้สถานนีรถไฟฟ้าอ่อนนุช และทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ซึ่งภายในเมืองเล็กๆ แห่งนี้มีที่อยู่อาศัยหลากหลายรูปแบบกระจายตัวอยู่บนพื้นที่สีเขียวริมคลองพระโขนง ที่หากเปิดแผนที่ออนไลน์ดูก็จะเห็นว่าพื้นที่บริเวณนี้ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ราวกับเป็นป่าในกรุงเลยทีเดียว
ใจกลางเมืองเล็กๆ แห่งนี้ยังมี Community Mall ที่ออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติ และด้วยความที่มีคนหลากหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่ในนี้ ตกเย็นเราจึงเห็นผู้คนมากมายออกมาเดินเล่น, นั่งชิลล์ริมสวน, พาลูกจูงหลานออกมาพักผ่อน จะพูดว่าบรรยากาศเหมือนเราเดินเล่นอยู่ในชุมชนคุณภาพแบบที่เมืองนอกก็ไม่ผิดนัก
คลองที่พาดผ่านบริเวณนี้ก็คือคลองพระโขนงที่พื้นที่โดยรอบยังคงเขียวขจีและวิถีชีวิตริมคลองยังคงมีให้เห็นเช่นเมื่อก่อน เราสามารถเห็นชาวบ้านพายเรือล่องคลอง วัดวาอารามริมน้ำเงียบสงบ ตลอดจนวิวสวยๆ ของคลองที่ตัดกับต้นไม้สีเขียวลัดเลาะไปตามสายน้ำ ซึ่งนี่คือเสน่ห์ของวิถีชีวิตดั้งเดิมที่อยู่ร่วมกับชุมชนทันสมัยอย่าง T77 Community อย่างไม่ขัดเขิน
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจก็คือสะพานทอดข้ามคลองกลางชุมชน T77 Community ที่ถูกเรียกว่า สะพานแสนสำราญ นั้นบริเวณนี้พอจะเป็นที่รู้จักในวงกว้างพอสมควรเพราะที่ผ่านมาถูกใช้เป็นสถานที่จัดเทศกาลประจำปีที่โด่งดังอย่าง Winter Market Fest มาแล้ว แต่อีกแหล่งแฮงค์เอาท์ใหม่ที่กำลังได้รับความสนใจก็คือ HABITO ซึ่งเป็น Community Mall ในกลิ่นอาย Modern Japanese ที่ออกแบบอาคารตลอดจนพื้นที่ใช้สอยได้อย่างโดดเด่น ภายใน HABITO นอกจากจะมีคาเฟ่น่านั่งละเลียดกาแฟไปจนถึงร้านอร่อยบรรยากาศดีหลายร้านแล้ว สถานที่ที่น่าสนใจจนกลายเป็นแม่เหล็กแห่งใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมก็คือ HUBBA-TO Co-Creation Community ที่ดูแลโดย HUBBA ซึ่งเป็น Co-working Space ชื่อดังของไทยนั่นเอง
ว่ากันว่า HUBBA-TO คือ Co-working Space ที่ครบครัน สมบูรณ์แบบ และมีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียเลยก็ว่าได้ ภายใน Co-working Space แห่งนี้ประกอบไปด้วยพื้นที่นั่งทำงานหลายโซน แซมด้วยร้านกาแฟชื่อดังสุดเท่จากสามย่านอย่าง April Store มาเปิดมุมหอมกรุ่นเสิร์ฟความอร่อยแบบประณีตด้วยกาแฟชงในแบบ Aeropress เท่านั้น ทีเด็ดอีกส่วนของ HUBBA-TO ก็คือการเปิดบริการ Dark Room ห้องมืดสำหรับคนรักกล้องฟิล์มไว้ให้บริการ แถมยังมี Ceramic Room สำหรับคนหลงใหลงานคราฟท์ที่อยากมาลองฝีมือของตัวเอง ตลอดจน Food Lab สำหรับคนรักอาหารและต้องการทดลองเมนูใหม่ๆ ไปจนถึง Maker Space พื้นที่สร้างสรรค์อิสระสำหรับคนมีไอเดีย เรียกได้ว่าเป็น Co-working Space ที่ผสมผสานกิจกรรมหลากหลายรูปแบบไว้ในที่เดียว
พื้นที่สาธารณะที่เขียวครึ้ม ร่มรื่น น่าเดินเล่นหรือนั่งพักผ่อน น่าจะเป็นเสน่ห์อีกอย่างที่ทำให้หลายคนหลงใหลชุมชนเล็กๆ อย่าง T77 Community นี้ เราสามารถซื้ออาหารทานง่ายๆ มานั่งชิลล์ใต้ต้นไม้ หรือไม่ก็หามุมสงบๆ นั่งอ่านหนังสือท่ามกลางธรรมชาติได้อย่างมีความสุข ด้วยวิถีชีวิตที่มีคุณภาพทำให้ชุมชนแห่งนี้กลายเป็นแหล่งที่น่าอยู่อาศัยมากที่สุดชุมชนหนึ่งของกรุงเทพฯ นอกจากนี้ ยังจะมีโรงเรียนนานาชาติอย่าง Bangkok International Preparatory and Secondary School (บางกอกเพรพ) ที่จะขยายแคมปัสสำหรับระดับมัธยมมาตั้งไว้ที่นี่โดยมีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคมในปี 2017
ภายในโครงการมีที่พักหลากหลายรูปแบบรายล้อมอยู่มากมาย อาทิ blocs77, THE BASE Sukhumvit 77, THE BASE PARK WEST, THE BASE PARK EAST, hasu HAUS, Garden Square เป็นต้น แล้วสำหรับโครงการน่าสนใจล่าสุดที่จะเกิดขึ้นภายใน T77 Community แห่งนี้ก็คือ mori HAUS คอนโดมิเนียมในสไตล์ Low Rise ที่ผสมผสานจิตวิญญาณตะวันตกกับตะวันออกไว้อย่างลงตัว ซึ่ง mori เป็นภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า “ป่า” ส่วน HAUS เป็นภาษาเยอรมันที่แปลว่า “บ้าน” ที่พักแห่งนี้จึงถูกออกแบบให้วิถีคนเมืองอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน
แวะชมห้องตัวอย่างของ mori HAUS กันได้ก่อนที่ mori Gallery ชั้น 3 Habito Mall และเปิดให้จองโครงการกันในวันที่ 6-7 สิงหาคม 2016 นี้ แล้วถ้าหากสนใจสัมผัสวิถีชีวิตเมืองคุณภาพ T77 Community แห่งนี้ลองเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันได้ที่ www.sansiri.com/condominium/