Winter in Germany เยอรมนี 4 ฤดู ตอนที่ 3 : ฤดูหนาว
ย้อนกลับไปอ่านตอนก่อนหน้าได้ที่นี่ Autumn in Germany เยอรมนี 4 ฤดู ตอนที่2 : ฤดูใบไม้ร่วง และ Summer in Germany เยอรมนี 4 ฤดู ตอนที่1 : ฤดูร้อน
หลายคนชอบบ่นว่าไม่อยากให้ถึงหน้าหนาว ทำให้ฉันจินตนาการเอาไว้มากว่ามันคงจะต้องหดหู่มากแน่ๆ โดยเฉพาะเวลามีเรียน (หรือทำงาน) ทั้งวัน ที่เรียกได้ว่าต้องออกจากบ้านตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น ฟ้ายังมืดอยู่เลย แล้วกว่าจะกลับออกมาอีกทีก็พระอาทิตย์ตกซะแล้ว เรียกง่ายๆ คือทั้งวันนี่แทบไม่ได้เห็นแสงอาทิตย์กันเลยทีเดียว
ที่ว่ามานั้นก็จริงอยู่ แต่มันก็มีอะไรให้ตั้งหน้าตั้งตารออย่างตื่นเต้นเยอะเหมือนกัน อย่างหิมะแรกของปี ตื่นเช้ามาทั้งง่วงทั้งมึน ต้องเดินไปขึ้นรถไฟตั้งแต่ฟ้ายังมืด แต่พอเช้าวันนั้นเห็นหิมะโปรยปรายลงมา ฉันกระโดดโลดเต้นเงยหน้าอ้าปากชิมหิมะไปตลอดทางอย่างมีความสุข หิมะแรก แบบนี้ เกาะที่ไหนก็ดูเป็นปุยนุ่มฟูน่ารัก พอหิมะเริ่มกองหน้าขึ้น ออกไปตักหิมะใส่ถ้วยมาราดน้ำเชื่อมกิน อร่อยกว่าน้ำแข็งไสบ้านเราอีกแน่ะ
และที่ขาดไม่ได้เลยคือเทศกาลคริสต์มาสที่เริ่มได้ฟีลนี้กันมาตั้งแต่สิ้นเดือนตุลาคมเลยทีเดียว เรียกได้ว่ายังไม่ทันถึงวันฮัลโลวีน ร้านค้าต่างๆก็เริ่มขายของตกแต่งสไตล์คริสต์มาสกันแล้ว
นี่เขาบิ้วท์อารมณ์กันล่วงหน้ากว่าสองเดือนเชียวนะ!
ของที่ขายกันส่วนมากมักจะเป็นของตกแต่งต้นคริสต์มาสพวกลูกบอลแก้วหลากสีสัน พวงหรีด คริสต์มาส (ใช้คำว่าพวงหรีดอาจจะดูแปลกๆ แต่ไม่รู้จะแปลยังไงแล้ว ภาษาอังกฤษคือ wreath หรือ เยอรมันเรียนว่า kranz) ทั้งที่สำหรับแขวนน่าประตูบ้าน และสำหรับวางเทียน Advent (Advent เหมือนการนับถอยหลังไปจนถึงวันคริสต์มาสนั่นเอง) ไปจนถึงแจกันดอกไม้ และตัวตุ๊กตาต่างๆ นานา ทั้งกวาง ซานต้าคลอส นางฟ้า และสโนว์แมน
นอกจากร้านค้าต่างๆแล้ว เมื่อเดินเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ต ทุกๆอย่างรอบตัวดูจะกลายเป็นธีมคริสต์มาสไปหมด โดยรสชาติประจำซีซั่นนี้จะเน้นไปทางเครื่องเทศจำพวกอบเชย ถั่ววอลนัท อัลมอนด์ และผลไม้ตระกูลส้มทั้งหลาย รวมไปถึงเกรปฟรุ้ตด้วย
ที่จริงแล้วช่วงนี้เยอรมันแทบไม่มีผลผลิตอะไรให้เก็บเกี่ยวสักอย่าง แต่ที่นิยมกินส้มกันมาก เพราะมันเป็นฤดูเก็บเกี่ยวส้มในอิตาลี ตุรกี อิยิปต์ ฯลฯ กลิ่นผิวส้มหอมๆกับอบเชย เลยกลายเป็นคอมโบยอดนิยมในช็อคโกแลตลิมิเต็ดอิดิชั่นของหลายยี่ห้อดัง และ ขนมอบประจำเทศกาลคริสต์ด้วย
ด้วยความที่อยู่แถวเมือง Nürnberg ซึ่งตลาดคริสต์มาสของที่นี่มีชื่อเสียงมากๆ เพื่อนที่โรงเรียนเลยชวนไปดูพิธีเปิดตลาดด้วยกัน โดยไฮไลต์ของพิธีนี้คือจะมีนางฟ้า (ใช่แล้วล่ะ อ่านไม่ผิดหรอก มีนางฟ้า จริงๆ) มากล่าวเปิดงาน แม้ว่าพิธีจะเริ่มหกโมง แต่ถ้าอยากไปให้เห็นนางฟ้าที่จะออกมาจากระเบียงชั้นสองของโบสถ์หน้าจตุรัสกลางเมืองนั้น ต้องไปจับจองพื้นที่ล่วงหน้ากันเป็นชั่วโมงเลยทีเดียว ส่วนพวกเราไปกันเกือบหกโมงพอดี อยู่อีกฟากนึงของโบสถ์เลย ตัวเตี้ยๆ อย่างฉันนี่ก็มองไม่เห็นอะไรกับเค้าหรอก จนเพื่อนสงสารว่าไอ้นี่มาจากแดนไกล มาถึงไม่ได้เห็นอะไร เลยให้ขึ้นขี่คอ ได้เห็นแวบๆสองสามนาที
เอาจริงๆ งานนี้คนที่นี่เองเขาไม่มากันหรอก คนเยอะอึดอัดเหลือเกิน แต่ก็นะ มาให้เห็นครั้งนึง ซึ้ง น้ำใจเพื่อนดีเหมือนกัน
ของที่ขายในงานมักจะเป็นของแฮนด์เมดน่ารักๆ ไว้ห้อยตกแต่งบ้าน หรือซื้อไปเป็นของขวัญวันคริสต์มาส ส่วนของกินก็มีเยอะ อย่างพวกชากลิ่นหอมอบอุ่น ใส่ถุงกระดาษหรือกล่องดูดี เอาไปเป็นของผากหรือของขวัญได้เหมือนกัน มีของกินง่ายๆ จะพวกไส้กรอกกับขนมปัง ของกินเล่นอย่างเกาลัดคั่ว (อร่อยมาก) ถั่วคั่วเคลือบน้ำตาล (หอมไปทั้งงาน) และขนมชื่อดังประจำเมือง Nürnberg อย่าง Lebkuchen ของโปรดของฉันนั่นเอง
Lebkuchen คือขนมปังขิง (gingerbread) เวอร์ชั่นเยอรมัน ที่เนื้อจะอยู่ระหว่างเค้กกับคุกกี้ ไม่นุ่มฟูเท่าเค้ก แต่ก็ไม่แข็งกรอบเหมือนคุ้กกี้ ทำจากถั่วบดเป็นหลัก น้ำผึ้ง ผิวส้มเชื่อม และเครื่องเทศคริสต์มาสแบบจัดเต็ม บางยี่ห้อราดช็อคโกแลตหรือเคลือบไอซิ่งด้วย เคี้ยวมันหนึบหนับ โดยเฉพาะถ้าซื้อจากเบเกอรี่ที่ทำเอง ไม่ใช่ซื้อจากซุปเปอร์มาร์เก็ต จะได้ถั่วเน้นๆ แป้งนิดเดียว ฉันนี่กินเล่นได้ทั้งวันเลยล่ะ
ในช่วงนี้อากาศจะหนาวขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งหลังพระอาทิตย์ตก เวลาที่ผู้คนนิยมออกไปเดินตลาดกันนั่นแหละ ทำให้ Glühwein (Mulled Wine) เป็นเครื่องดื่มประจำหน้าหนาวไปเลย ไวน์ต้มอุ่นๆ กับผลไม้อย่างส้มหรือแอปเปิ้ล ฝานเป็นชิ้นแล้วใส่เครื่องเทศลงไปด้วย ได้ยืนจิบไวน์อุ่นรสชาติหอมหวานท่ามกลาง บรรยากาศหนาวเย็น เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของช่วงนี้แหละ หรือจะซื้อไวน์มาต้มกับผลไม้ ใส่น้ำตาล อบเชย และโป๊ยกั๊ก (star anise) เพิ่มความหอม จิบกินข้างเตาผิงที่บ้านกับหนังสือเล่มโปรด ก็เป็นการใช้เวลาว่างในช่วงที่อากาศเลวร้ายของคนที่นี่เขาล่ะ
แต่ถ้าวันไหนอากาศดีล่ะก็ ฤดูหนาวที่เยอรมันงดงามมากๆเลยล่ะ

ยิ่งใกล้คริสต์มาส ชาวเยอรมันยิ่งดูจะยุ่งขึ้นทุกวัน ทั้งต้องนัดเจอครอบครัว ไปงานสังสรรค์วันคริสต์มาสกับเพื่อนๆ เตรียมของขวัญวันคริสต์มาสให้พร้อม (ยิ่งรู้จักคนเยอะ งานก็จะพอกพูนขึ้นไปอีก) เตรียมคิดเมนูว่านี่ถ้าแม่สามีมาฉลองคริสต์มาสที่บ้านจะทำอะไรให้ทาน โดยของแบบนี้ต้องเตรียมตัวกันแต่เนิ่นๆ ทำมาคิดแล้วออกไปซื้อของกับโค้งสุดท้าย นอกจากจะเสี่ยงว่าของหมดแล้ว ยังต้องมาปวดหัวกับคิวจ่ายเงินที่ยาวเหยียด โดยเฉพาะก่อนวันคริสต์มาสไม่กี่วัน ทั้งร้านค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ตจะอัดแน่นไปด้วยผู้คนเลยล่ะ
ส่วนเด็กๆหรือวัยรุ่น ที่ชีวิตยังไม่เยอะเหมือนพวกผู้ใหญ่ ก็มีความสุขกับการนัดเจอกันที่บ้านเพื่อน จัดปาร์ตี้คริสต์มาสเล็กๆ หรืออบคุ้กกี้คริสต์มาส (plaetzchen) หลากหลายรสชาติ อบไปกินไป ค่อยๆสะสมน้ำหนักตัวไปเรื่อยๆจนถึง…
วันคริสต์มาส!
คริสต์มาสในเยอรมนีนั้นฉลองกันสามวัน คืนวันแรกหรือ Heilige Abend (Christmas Eve) ครอบครัวจะมาใช้เวลากินข้าวเย็นพร้อมกัน โดยแต่ละบ้านจะมีธรรมเนียมแตกต่างกันไป บ้างกินปิ้งย่าง Raclette บ้างกินอาหารเย็นง่ายๆ อย่างขนมปัง ชีส แฮม และไส้กรอก บางบ้านจะจัดชุดใหญ่ตั้งแต่มื้อแรกกันเลย
หลังท้องอิ่มแล้วก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย คือเปิดของขวัญนั่นเอง ฉันจัดเตรียมของขวัญแฮนด์เมดที่ ราคาไม่แพงแต่ทำด้วยใจล้วนๆ เพราะมันคือสมุดภาพที่ฉันลงมือถ่ายและเขียนเองกับมือ เปิดของขวัญ กันเสร็จก็มีดริ้งค์ไวนกันอีกเล็กน้อยก่อนเข้านอน เพราะพรุ่งนี้เรามีนัดจัดหนักกับครอบครัวของโฮสนั่น เอง
จัดหนักยังไง? โฮสมัมของฉันอบห่านทั้งตัว เตรียมไว้กินฉลองกันในวันพรุ่งนี้น่ะส!
อีกสองวัน นั่นคือวันที่ 25 และ 26 มีโปรแกรมสั้นๆ ง่าย คำเดียว ‘กิน’
วันแรกกินบ้านย่า วันที่สองกินบ้านยาย จากห่านถึงเนื้อกวาง ต่อด้วยของหวานและคุ้กกี้อีกเพียบ น้ำหนักไม่ขึ้นก็ให้มันรู้ไป
หลังจากนั้นเราเลยต้องไปออกกำลังกายกันสักหน่อย แต่เป็นการออกกำลังกายที่ไม่ธรรมดา (ในสายตาคนไทยอย่างฉัน) สักเท่าไหร่ เพราะเราไปกันไกลถึงบนยอดเขาในออสเตรีย พร้อมกับรองเท้าสกีอันเทอะทะ แถมยาวเก้งก้างอีกหนึ่งคู่ วันแรกก็เล่นตรง Babyberg (baby hill) ที่สโลปตื้นๆก่อน ส่วนคุณครูของฉันไม่ใช่ใครที่ไหน เด็กน้อยอายุหกขวบกับสามขวบหลานโฮสและคุณตาของเด็กๆทั้งสอง ที่เป็นโปรสกีเพราะอยู่แถวนี้ ช่วงหน้าหนาวนี้ขึ้นมาเล่นกันวันเว้นวันเลยทีเดียว
หลักการง่ายๆ ของการเล่นสกีมีอยู่สองอย่าง คือต้องเบรคให้เป็น และล้มให้เป็น โดยเวลาจะเบรค ให้บังคับหัวสกีมาอยู่ใกล้ๆ กันเป็นรูปสามเหลี่ยมคล้ายพิซซ่า (Pizzastück) ถ้าจะเดินหน้าต่อก็ให้สกีมา ขนานกันเป็นเฟรนช์ฟรายส์สองชิ้น (Pommes)เลยได้ท่องไปตลอดทั้งเช้า..
Pizzastück! Pommes! Pizzastück! Pommes!
เที่ยงกว่า ล้มจนเหนื่อย บวกกับตลอดเวลาที่เล่นสกีก็ถึงแต่พิซซ่ากับเฟรยช์ฟรายส์ พอมื้อเที่ยงเลยให้รางวัลตัวเองเป็นหมูทอดกับเฟรนช์ฟรายส์ (Schnitzel) ซะเลย ตอนบ่ายเลยได้ท้องกลมๆ ไปกลิ้งบนหิมะต่อเป็นของแถม
หลังปีใหม่ไปแล้ว ถึงได้เข้าบรรยากาศหดหู่ตามสไตล์ฤดูหนาวของจริง เพราะหมดช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองที่ทุกคนรอคอยมาทั้งปี ทุกคนต้องกลับไปเรียนและทำงานตามปกติ นอกจากนี้อากาศเดือนมกราคมยังเย็นลงกว่าเดิม สวนทางกับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจากช่วงคริสต์มาสของหลายๆคน แม้จะเป็นเดือนใหม่ของปี แต่มันช่างเป็นเดือนที่ไร้สีสันเหลือเกิน
โชคดีที่เป็นแบบนั้นแค่เดือนเดียว เพราะช่วงต้นเดือนกุมภาจะมีงานคาร์นิวัลประจำปี ที่จัดอย่างยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุด คงหนีไม่พ้นแถบเมือง Cologne แต่เผอิญว่าช่วงนั้นฉันไม่โอกาศได้ไปเยี่ยม ครอบครัวหนึ่งที่เมืองเล็กๆ ใกล้ Basel ในสวิตเซอร์แลนด์ (แต่ยังอยู่ในเยอรมนีนะ) แถวนั้นเขาก็ ฉลองงานคาร์นิวัลกันเยอะเหมือนกัน มีทั้งปาร์ตี้แฟนซีตอนกลางคืน และขบวนพาเหรดกับเพลงพื้นบ้านที่เรียกว่า Guggenmusik แม้จะต้องยืนหนาวเหน็บท่ามกลางหิมะที่ตกปรอยๆตลอดสองชั่วโมง แต่ก็คุ้มกับขบวนพาเหรดเจ๋งๆ ที่ได้เห็นหลังพาเหรดจบค่อยมาหลายหนาวกันด้วยน้ำพันช์อุ่นๆ
มาส่งท้ายฤดูหนาวกันบนเขาดีกว่า
Schwarzwald หรือ Black Forest คือแนวป่าและเทือกเขาในรัฐ Baden-Wüttemberg ที่จะมีเมืองเล็กเมืองน้อยแทรกอยู่ เป็นสถานออกไปพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติของคนแถวนี้ ช่วงหน้าร้อนมาเดินเล่นเที่ยวทะเลสาบ เก็บบลูเบอร์รี่ได้ ส่วนหน้าหนาวมาเล่นหิมะ เล่นสกีบนนี้ได้เหมือนกัน วันไหนอากาศดีๆ ท้องฟ้าสดใส ที่นี่สวยงามราวกับออกมาจากหนังสือนิทานภาษาอังกฤษเล่มโปรดที่ฉันชอบเปิดดูสมัยเด็กๆเลยทีเดียว เพราะสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นสนที่มีหิมะเกาะอยู่เต็มต้น
ฤดูหนาวที่นี่ มีอะไรดีๆ มากกว่าที่คิดไว้เยอะเลยนะเนี่ย
ย้อนกลับไปอ่านตอนก่อนหน้าได้ที่นี่ Autumn in Germany เยอรมนี 4 ฤดู ตอนที่2 : ฤดูใบไม้ร่วง และ Summer in Germany เยอรมนี 4 ฤดู ตอนที่1 : ฤดูร้อน