หนึ่งวันใน Milan
หนึ่งวันในมิลาน เมืองใหญ่ผู้นำแฟชั่น และงานดีไซน์ในอิตาลี เมืองที่มีอะไรต่อมิอะไรให้ดู เต็มไปหมด แต่การจะบรรจุทุกอย่างให้ได้ ในเวลาที่จำกัด เป็นความท้าทาย และสนุกสนานอย่างหนึ่ง เมืองนี้สามารถไปไหนมาไหนได้ด้วยเมโทร ที่วิ่งเชื่อมกันทั้งเมือง รวมทั้งรถรางและบัส ที่ซอกซอนไปทุกตรอกซอกซอย หนึ่งวันในมิลานของเราเริ่มต้นแบบนี้แล้วกัน..
Fondazione Prada
เริ่มต้นวันด้วยกับการเสพศิลปะดีๆที่ fondazione prada เป็น exhibition space ของ prada ที่สร้างขึ้นในบ้านเกิดของตัวเอง นั่งเมโทรมาลงที่สถานี Lodi T.i.b.b. แล้วเดินต่ออีกนิดหน่อย ตัวตึกที่สวยเด่นเป็นสง่าอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมแบบนอกเมืองนิดๆ ด้วยสถาปัตยกรรมสวยๆจาก Rem Koolhaas สถาปนิกชาวดัทช์ชื่อดังและทีม OMA ที่รังสรรค์ space ที่นี่ให้ดูเปรี้ยวล้ำไม่เสียชื่อ prada การใช้ material หลากหลาย ทั้งปูนเปลือย หิน เหล็ก กระจก สวยงามเรียบง่ายตามขนบแต่แอบแทรกความแซ่บลงไปด้วยก้อนตึกสีทองเด่นเป็นสง่า ทำให้พื้นที่ดิบๆนี้ดูโดดเด่นขึ้นมาทันตาเห็น
พื้นที่ของ fondazione prada ถูกแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ ทั้งส่วนที่จัดแสดง exhibition ห้องสมุด ห้องฉายภาพยนตร์ และ Bar Luce คาเฟ่ที่ได้ผู้กำกับชื่อดังอย่าง Wes Anderson มาออกแบบให้ รายละเอียดทุกกระเบียดนิ้วแสดงออกถึงความเป็น Wes Anderson สุดๆ ราวกับหลุดเข้าไปอยู่ในหนัง ทั้งสีสันวัสดุที่ใช้ ให้อารมณ์คาเฟ่ในยุค ’50 แถมยังมีลูกเล่นในหลายๆมุม ทั้งตู้พินบอลจากหนังเรื่อง The Life Aquatic with Steve Zissou และแบรนดิ้งของตัวคาเฟ่เองที่แสดงออกมาทั้งแก้ว จานชาม กระดาษทิชชู่ กระดาษรองแก้ว ซองน้ำตาลและเมนูที่น่ารักจนอยากจะจิ๊กกลับบ้าน เสียดายอย่างเดียวที่เราไม่ได้เห็นวี่แววของ Courtesan au Chocolat ขนมชื่อดังของMandl’s จากในหนังชิงออสการ์ล่าสุดอย่าง The Grand Budapest Hotel
[su_tabs][su_tab title=”Details”]
Opening Hours: ทุกวันเวลา 10.00 น. – 21.00 น.
Location:
Fondazione Prada Milano
Largo Isarco 2
20139 Milan
[su_gmap width=”1600″ address=”Fondazione Prada”][/su_gmap][/su_tab][/su_tabs]
Duomo
จากสถานี Lodu T.i.b.b นั่งมาลงที่ Duomo สถานีสำคัญของมิลาน โผล่ขึ้นมาเจอจัตุรัสใจกลางเมืองที่มี Duomo di Milano แลนด์มาร์คในตำนานของมิลาน วิหารโอ่อ่าใหญ่โตอลังการ สถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคสีขาวเด่นสวยงาม ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งในอิตาลีและใช้เวลาสร้างนานถึง 6 ทศวรรษ ด้านในสวยงามอลังการไม่แพ้ด้านนอก มีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาที่นี่ ท่ามกลางความวุ่นวายของจัตุรัสด้านนอก การเข้ามาในโบสถ์ได้ยินเสียงออร์แกนไพเราะกังวาลก็ทำให้จิตใจสงบได้ในช่วงเวลาหนึ่งๆ ก่อนจะออกไปตะลุยเมืองต่อ ถัดไปทางทิศเหนือจากจัตุรัสมีช็อปปิ้งอาร์เขตชื่อดังอย่าง Galleria Vittorio Emanuele II ตัวกลุ่มอาคารขนาดสุง 4 ชั้นทะลุปรุโปร่ง ครอบด้วยหลังคากระจกทรงโค้งตลอดแนวความยาวอาคาร แทบจะเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในช็อปปิ้งมอลล์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเพราะสร้างมาตั้งแต่ปี 1865 แต่ก็มีเสน่ห์ดึงดูดไม่ตกยุคสมัย เหล่าแบรนด์ดังต่างๆ มารวมตัวอยู่ที่นี่แถมยังมีคาเฟ่และร้านอาหารอีกด้วย บริเวณตรงกลางอาคารมี installation art ให้ได้เล่นสนุกกัน กล่องกระจกสี่เหลี่ยมขนาดมหึมาถูกติดตั้งให้นักท่องเที่ยวหรือคนแถวนั้นมาถ่ายselfieให้หนำใจ แล้วแชร์ไปยัง application ที่จะเป็นการโปรโมตช็อปปิ้งมอลล์แห่งนี้ ซึ่งตำแหน่งตรงนี้จะมีการหมุนเวียน installation art ไปเรื่อยๆ เพื่อสร้างสีสันให้กับผุ้คนที่ผ่านไปผ่านมา
[su_tabs][su_tab title=”Location”]
Piazza del Duomo
Milano, Italy
[su_gmap width=”1600″ address=”duomo, milan”][/su_gmap]
[/su_tab][/su_tabs]
Brera District
ออกจากแหล่งวุ่นวายใจกลางเมือง แวะเติมพลังที่ร้านเจลาโต้ชื่อดังอย่าง GROM เจลาโต้ออร์แกนิกที่มีมากมายหลายสาขา เน้นวัตถุดิบคุณภาพที่นำมาใช้ผลิตเจลาโต้นุ่มหนึบ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในร้านโปรดสุดๆ เจอเมื่อไหร่ต้องกินทุกครั้งตลอดทริปนี้ เดินลัดเลาะขึ้นไปผ่าน Via Giuseppe Verdi ต่อขึ้นไปยัง Via Brera จะเข้าสู่บริเวณ Brera District เรียกได้ว่าเป็นย่านศิลปะของมิลาน มีร้านรวงกระจุกกระจิกตลอดสองข้างทางและแกลอรี่ต่างๆ วันนี้เป็นวันอาทิตย์ร้านจึงปิดกันหลายร้าน แต่ก็ยังมีร้านขายของน่ารักๆให้เชยชมกันได้บ้าง เดินไปถึงเส้น Via Fiori Chiari เจอกับ Flea market อัดแน่นอยู่ในตรอกยาว 2 ช่วงบล็อกนี้ ขายของวินเทจน่าคุ้ยเต็มไปหมด ทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ จานชามวินเทจ สองข้างทางก็ยังมีร้านอาหารที่มีเก้าอี้แบบ outdoor ให้ออกมานั่งสูดอากาศ เบียดเสียดกับคนที่สัญจรไปมาได้อย่างใกล้ชิด เหมาะเจาะกับเวลานี้เป็นช่วง Happy Hour หรือที่คนlocal เรียกกันว่า Aperitivo คล้ายๆกับว่าเป็นช่วงมื้อว่างก่อนจะเริ่มทาน dinner จริงจัง หลายร้านมีโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์อาหารเบาๆพร้อมเครื่องดื่มราคาเป็นมิตร เรียกได้ว่าทานแค่นี้ก็อิ่มไปจนถึงดึกแล้วสำหรับคนไทยอย่างเราๆ
[su_tabs][su_tab title=”Location”]
Brera District
[su_gmap width=”1600″ address=”Brera District, milan”][/su_gmap]
[/su_tab][/su_tabs]
10 Corso Como
จากเมโทรสถานี Lanza ใกล้ๆกับ Via Fiora Chiari ถัดไปอีก 2 ป้ายคือสถานี Galribaldi Fs อีกหนึ่งสถานที่ที่พลาดไม่ได้กับ 10 corso como , select shop สุดเท่ต้นกำเนิดจากมิลานที่มีสาขาไปแล้วหลายที่ทั่วโลก ตัวอาคารด้านนอกที่ดูเป็นอาคารเก่าตามปกติแสนจะไม่มีอะไร แต่พอก้าวผ่านประตูเข้าไปจะพบ court ด้านในที่เต็มไปด้วยต้นไม้โอบล้อม บรรยากาศร่มรื่นและน่ารักสุดๆ ที่นี่มีทั้ง select shop แบรนด์แฟชั่นหลากหลายจากทั่วโลก เครื่องประดับ accessories ต่างๆ รวมไปถึงน้ำหอมและผลิตภัณฑ์ประทินผิวเก๋ๆ ชั้น 2 มีร้านหนังสือดีไซน์ขนาดใหญ่พร้อมของแต่งบ้านจากดีไซเนอร์ชื่อดังมากมาย แถมยังมี space ที่เป็น gallery เล็กๆซึ่งจัดแสดงนิทรรศการภาพถ่ายอยู่ ด้านล่างมีร้านอาหารที่นั่งได้ทั้งในสวนสบายๆหรือภายในร้านที่ดูหรูหราจริงจัง เรียกได้ว่าครบรสสำหรับคนที่คลั่งงานดีไซน์และของสวยๆงามๆ
[su_tabs][su_tab title=”Details”]
Opening Hours:
Gallery + Shop ทุกวันเวลา 10.30 น. – 19.30 น. | วันพุธ – พฤหัส เวลา 10.30 น. – 21.00 น.
Cafe ทุกวันเวลา 10.30 น. – 01.00 น.
Location:
Corso Como, 10,
20154 Milano MI, Italy
[su_gmap width=”1600″ address=”10 Corso Como, milan”][/su_gmap] [/su_tab][/su_tabs]
Navigli
กลับมาย่านที่พักริมคลองของเรา เรียกว่าเป็นย่านฮิปของที่นี่ได้เลย Navigli เป็นแหล่งรวมร้านอาหารและแหล่ง hang out ของผู้คนที่นี่ ยิ่งค่ำคนยิ่งเยอะ เรียกว่าเบียดเสียดแออัดกันเลยทีเดียว สองข้างทางริมฝั่งคลองเต็มไปด้วยคาเฟ่ ร้านอาหาร บาร์ ร้านเสื้อผ้าน่ารักๆ ร้านหนังสือ ร้านเจลาโต้ เรียกได้ว่ามีหมด มีครบ แถมวันเสาร์ยังมี flea market ขายของตลอดริมฝั่งคลอง ที่นี่มีร้านพิซซ่าชื่อ Fabbrica Pizzeria Con Cucina ตกแต่งสไตล์อินดัสเตรียลมีความเป็นร้านฮิปๆแบบอเมริกัน แต่มีพิซซ่าอิตาเลียนแท้ๆที่อบในเตาถ่านให้ดูตรงหน้า อร่อยแบบสุดๆ ปิดท้ายหนึ่งวันที่มิลานด้วยการดื่มด่ำบรรยากาศดีๆริมน้ำ มองผู้คนผ่านไปผ่านมาและเจลาโต้นุ่มๆอีกสักโคนก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
[su_tabs][su_tab title=”Details”]
Opening Hours:
ทุกวันเวลา 7.00 น. – 24.00 น. | วันเสาร์ – อาทิตย์ ครัวปิดเวลา 15.00 น. – 19.00 น.
Location:
Alzaia Naviglio Grande,
70, 20144 Milano, Italy
[su_gmap width=”1600″ address=”10 Corso Como, milan”][/su_gmap] [/su_tab][/su_tabs]
About the Author
Bibi Tanya
Interior architect graduate who turned to a magazine graphic designer for a while and then quit the routine job to follow her dream as a food stylist. With a passion of food, design and travel. www.bibitanya.com